เป็น 1 ในตำนานนักกีฬาระดับแถวหน้าของเมืองไทยและของโลก ที่ยุคหนึ่ง“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” หรือที่ทั่วโลกรู้จักในชื่อ “เจมส์ วัฒนา” ได้สร้างกระแสให้สนุกเกอร์เป็นกีฬาที่ฟีเวอร์มากในเมืองไทย เพราะฝีมือในการสอยคิวอยู่ในระดับสุดยอดและรุ่งโรจน์ถึงขั้นเคยขึ้นเป็นมือวางอันดับที่ 3 ของโลกมาแล้ว แม้ว่าหลายปีมานี้จะไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตา นักสนุกเกอร์คนเก่ง ในเมืองไทยเท่าไหร่เพราะไปปักหลักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ก็ยังมีรายการแข่งขันมาให้ได้เชียร์กันอยู่เสมอ ล่าสุดรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เชิญมา ต๋อง ศิษย์ฉ่อย มาเปิดเส้นทางการเป็นนักสนุกเกอร์พร้อมกับอัพเดทชีวิตหลังกลับมาปักหลักที่เมืองไทย แต่งานนี้ กับได้ยินเรื่องไม่คาดคิดเมื่อ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ประกาศแขวนไม้คิวกลางรายการ เหมือนว่า “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” หายไปจากข่าวคราวในประเทศไทย พี่ต๋องย้ายไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษเลย? ต๋อง:15 ปีแรกเนี่ย ผมน่าจะอยู่ที่อังกฤษปีละ 10 เดือนเกือบทุกปีนะครับ เรียกว่าไม่ค่อยได้เจอครอบครัว ไม่ได้เจอแม่ไม่ได้เจอพี่น้อง กลับมาก็เหมือนคนแปลกหน้า จะกอดกันทีก็ดูเขินๆ และก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นเยอะ สองเดือนนี้คือต้องกลับมาทำวีซ่าแล้วได้พัก ยิ่งอยู่ท็อป16ก็ต้องยิ่งเดินทางเป็นว่าเล่นเลยครับ ทั่วโลกไหมตอนนั้น? ต๋อง:ทั่วโลก แล้วก็ในยุโรปเยอะกว่าครับ เพราะในอเมริกายังเล่นไม่เป็น แล้วก็ทางจีนอีก เอเชีย ฮ่องกงอีก มันไม่ใช่ว่าแข่งอย่างเดียวเขาเชิญเราไปโชว์ตัวด้วย ก็ค่อนข้างเดินทางเยอะนะครับ ในช่วงนั้นนี่คือซื้อบ้านอยู่ที่นั่น? ต๋อง:ซื้อบ้านซื้อรถอยู่ที่นั่นเลย ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเงินซื้อบ้าน พอเราเริ่มหารายได้ได้นะฮะ เออ...กีฬานี้มันก็เมคมันนี่ได้นะ(สร้างรายได้) สร้างชื่อเสียง ซึ่งตอนนั้นเมื่อก่อนตอนที่เราเริ่มเล่นเนี่ยเราไม่เคยคิดว่าสิ่งพวกนี้จะมาสร้างชื่อเสียง หรือมาให้พวกคุณได้มานั่งสัมภาษณ์ผมเนี่ย ผมไม่เคยคิดเลย เพราะว่ามันเป็นอะไรที่เกนือความคาดหมายมากกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็ว และก็ทางสมาคม ทั้งผู้ใหญ่ โชคดีด้วยได้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่หลายๆท่าน แล้วปัจจุบันที่อังกฤษเนี่ยยังต้องกลับไปอยู่ที่นั่นไหม? ต๋อง : ยังกลับไปก็ได้ครับ แต่พอตั้งแต่มีโควิด-19 มันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ย มันอันunsettled ก็คือไม่สามารถบอกได้ว่า..เพราะปีที่แล้วก็ยังค้างอยู่3-4รายการ พอมันเลื่อนมาๆ แล้วมีโอลิมปิคเข้ามาอีก สนุกเกอร์เขาพยายามผลักดันให้เข้าโอลิมปิค ทำให้คนทำงานลำบาก เพราะสปอนเซอร์จ่ายตังค์มาแล้วทัวร์นาเมนท์ยังไม่ได้เริ่ม โดยเฉพาะที่จีนยังมีอีก 7 รายการ และจีนติดก่อนใครเลย และเงินใหญ่ด้วย เงินมหาศาล คุณก็รู้ว่าที่จีนเงินมหาศาล แต่นิ่งหมดเลย เป็นนักสนุกเกอร์ต้องเทรนยังไง? ต๋อง : ทุกวันนี้ผมก็วิ่งอยู่นะ ผมคิดว่าถ้าเราออกกำลัง ถ้าสมองเรามีการ Burnout หัวสมองเราไบร์ทนะ เราจะคิดได้ one step ahead (ก้าวล้ำหน้า)ของคนธรรมดา ผมคิดนะ เพราะฉะนั้นผมออกกำลัง ผมจะเป็นคนที่ว่าสนุกเกอร์เป็นกีฬาสุดท้ายที่ผมจับ เล่นกีฬาเอาท์ดอร์มาตลอด ทุกวันนี้ผมก็ยังวิ่งอยู่นะวันละ4-5โล แล้วก็เล่นเวทให้มันเฟิร์ม ให้ร่างกายมันไม่หย่อนยาน ออกกำลังกายมาตั้งแต่อายุ 13 ทุกวันนี้ก็ยังวิ่งอยู่ แม้กระทั่งติดโควิดผมก็วิ่งในหมู่บ้านตัวเอง วิ่งตลอด อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ขายบ้านที่อังกฤษ แล้วกลับไทย? ต๋อง : เบื่อครับ เหงา ยอมรับว่าเบื่อและก็เหงา เพราะว่าอยู่คนเดียวมานาน เก็บชัยชนะมาก็เยอะ แต่ว่าเหงาเพราะว่าผมก็ไม่ได้คบกับฝรั่งอะไรมากมาย อยู่คนไทยอบอุ่นกว่า ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยกี่ปีแล้ว? ต๋อง : ก็จริงๆกลับมาก่อนโควิดนิดเดียวนะ ตั้งแต่หลังขายบ้านมาก็ยังไปๆมาๆอีก 10 กว่าปีนะ ทั้งหมดเกือบ 35 ปีที่ผมคร่ำหวอดกับวงการนี้นะครับ อินแอนด์เอาท์ ออนแอนด์อ๊อฟตลอด เงินรางวัลที่เคยได้สูงสุดเลย มันเยอะขนาดไหน? ต๋อง : จริงๆแล้วในปีนึงที่ผมเคยทำมาในชีวิตนะ ใน 1 ฤดูกาลดีกว่า ก็น่าจะประมาณ 28-29ล้าน เงินรางวัลนะ ยังไม่รวมสปอนเซอร์ชิฟนะครับ แปลว่ารวมๆ เห็นบอกว่าถึง 1 ล้านปอนด์ ต๋อง:ถ้าโอเวอร์ ผมน่าจะได้อยู่ประมาณ 2 ล้านกว่า 2-3 ล้าน(ปอนด์)ประมาณนี้ แต่คุณอย่าลืมนะว่าที่อังหฤษเนี่ยชื่อเสียงในการเก็บภาษีนี่โหดมาก อัตราสูงสุดนี่อยู่ที่ 40 เปอร์เซนต์นะครับ เพราะฉะนั้นได้มาร้อย คุณไม่ได้ไปเต็มร้อย คุณต้องไปหาวิถีทางวางแผนภาษี ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยมาเล่นสนุกเกอร์ รู้สึกยังไงบ้าง? ต๋อง : จริงๆก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็น นัมเบอร์วันหรือจะมาเป็นตัวแทนของแรงบันดาลใจ แต่พอเราได้ยินเรารู้สึกปลื้ม ผมก็อยากจะให้มีมากกว่าหนึ่งต๋อง อยากให้มีต๋องสอง สาม สี่ อยากให้มีคนเก่งๆเยอะๆ โดยเฉพาะในคนไทย อยากให้กีฬาตรงนี้อยู่กับเราไปนานๆ ตราบนานเท่านาน เพราะว่าอย่างน้อยเราก็เป็นหนึ่งในหนึ่งองค์กร และหนึ่งในฐานะตัวแทนนักกีฬาอยากจะให้มันสร้างชื่อเสียงในระดับซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากทำก็คืออยากให้มันเข้าโอลิมปิค เพราะว่า โอลิมปิคมันสุดยอดของกีฬา เรากำลังทำกันอยู่ครับ พี่เคยประกาศตัวว่า “ให้ผมตายดีกว่าให้ผมเลิกเล่นสนุกเกอร์” แต่ตอนนี้ได้ยินข่าวว่าพี่จะแขวนไม้คิว? ต๋อง : ใช่ จากวันนั้นถึงวันนี้มันก็เปลี่ยนไปแล้วเนอะ ความคิดความอ่าน(หัวเราะ) แต่ถามว่าสนุกเกอร์ก็อยู่ในใจเสมอ เมื่อก่อนคิดถึงตัวเองไง แต่ตอนนี้เริ่มคิดถึงคนอื่นมากขึ้น คิดถึงสังคมส่วนรวม อยากให้กีฬามันเดินต่อ เราต้องมองไปข้างหน้า คือว่ามองถึงภาพรวม ต๋อง:ผมจะบอกให้ กีฬาสมัยผม มันจะมีผมกับพี่เขาทราย สมัยนี้มันมีทั้ง 2 เมย์ ทั้งกอล์ฟ ทั้งแบตมินตัน ทั้งมวยเริ่มกลับมา มันมีช้อยส์ให้เลือกไงครับ และสนุกเกอร์ถ้าเปรียบเรื่องเงินรางวัละไปเทียบกับคนอื่น ไม่รู้จะสู้เขาได้รึเปล่าเนอะ ใครก็แล้วแต่ถ้าเป็นคนเก่ง อยากให้มาด้วยใจ ใจรักและก็วินัย บางทีพ่อแม่ชอบมาก มากกว่าตัวลูกซะอีกผมว่า อันนี้ก็เป็นห่วง ตอนนี้เรากำลังขาดบุคลากร ผมตอนนี้อีกไม่นานก็คงจะมาอยู่เบื้องหลังจะมาสร้างเด็กนะครับ เห็นว่าล่าสุดเอาของมาประมูลหรือเปล่าคะ? ต๋อง : ใช่ครับ ก็มาจากโควิด โควิดให้อะไรกับผมเยอะ ได้นพาไปให้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ไปร่วมกับพี่ท็อปพี่ไทด์ ให้ไปเกือบ 4 แสนปะคะ? ต๋อง : ให้ไปเกือบ 5 แสนครับ ให้ไป 2 ครั้งครับ เพราะฉะนั้นก็เป็นนิมิตรหมายที่ดีด้วย เพราะท่านทั้ง 2 ก็เป็นไอดอลของผมของผู้ให้ ประมูลอะไรบ้าง? ต๋อง : ประมูลคิว เสื้อกั๊ก ไม้คิวที่ผมเล่นอยู่ทุกวันนี้ครับ 2 อัน อันนึงได้ สองแสนหนึ่ง อีกอันนึงได้แสนสามหมื่นห้าพัน เห็นว่าพี่ต๋องเอาเงินไปช่วยช้าง ต๋อง : ใช่ครับ ปางช้าง นี่ที่แรกนะ ยังมีอีกหลายที่ที่เราต้องไป คุณกับทางพี่บิณฑ์และพี่เอกพันธ์ ผมว่างผมก็จะไปทุกที่นะ ผมก็เป็นจิตอาสาเต็มตัวแล้วนะ เพราะอยากจะไปช่วยในชีวิตที่เหลืออยู่ ตั้งใจอยากทำมานาน เพราะฉะนั้นนี่เป็นสิ่งที่ผมชอบและต้องลงไปทำด้วยตัวเองด้วย โดยที่ไม่ได้นัดหมายนะครับ และก็อยากจะช่วยเพราะว่าทีมงานพี่บิณฑ์ก็ถือว่าทำอะไรไวและผมชอบ ถูกจริตเรานะครับ เห็นว่าเร็วๆนี้จะเปิดตัวหนังสือของตัวเอง? ต๋อง : ใช่ครับ ก็เป็นหนังสือเล่มที่ 3 ที่ 4 แล้วครับ ก็เปิดเพื่อมีการประมูลด้วย ก็แน่นอนครับเพื่อการกุศลเจริญรอยตามพี่บิณฑ์ดีกว่าครับ หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอะไร? ต๋อง : เกี่ยวกับชีวประวัติของผมนะฮะในเสี้ยวนึง แล้วก็สิ่งที่คุณยังไม่รู้คุณก็จะรู้ในเล่มนี้ โดยเฉพาะที่เป็นแฟนคลับหรือคนที่ยังไม่เป็น อย่าคิดถึงผมอย่างเดียวคิดถึงคนเดือดร้อนด้วย และก็รู้ชีวิตผมมากขึ้นในสิ่งที่คุณยังไม่เคยรู้ ส่วนหนึ่งของรายได้ของการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ จะมอบให้การกุศลเหมือนกัน? ต๋อง:การกุศลแน่นอนครับ ไม่ทางพี่บิณฑ์ ก็ทางผมนะครับ ให้พี่ต๋องฝากไปถึงเด็กๆ หันมาเล่นสนุกเกอร์ ต๋อง : ก็ฝากทุกคนนะฮะ ที่วัยหัวเลี้ยวหัวต่อเนอะ เมื่อก่อนผมก็เคยผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ตอนนี้ผมทำอะไรรู้ไหม ผมสวดมนต์เกือบทุกวัน ตื่นมาตี 5 สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนจะไปทำอะไรก็ทำจิตให้สว่าง นึกถึงว่าวันนี้เราจะออกมาทำอะไรให้ประชาชน นึกถึงแต่อย่างนี้ฮะ นึกถึงทุกวันนี้ ยังไม่นึกถึงสนุกเกอร์เลยนะ นึกถึงแต่ทำไงให้กับสังคมนะครับ ในตอนนี้ชีวิตพี่คือสิ่งที่ตั้งใจนะครับ อยากเชิญชวนเพื่อนๆพี่น้องที่อยากจะได้ดีดีกว่า เป็นคนดี เพราะฉะนั้นคนดีตอนนี้เรากำลังขาดบุคลากรของความดี เพราะฉะนั้นเรามาช่วยกัน togetter we can ผมว่า เพราะฉะนั้นขอเชิญชวนแล้วกันฮะ แล้วก็มาเล่นกีฬาสนุกเกอร์หรือไม่ใช่สนุกเกอร์ก็ดี อะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดีนะครับผม สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทางยูทูป : https://youtu.be/k2QIz8VxI34