วันที่ 2 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบหลังจากได้รับข้อมูลการขอรับการช่วยเหลือกรณีประสบสาธารณภัยวาตภัย ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยผู้สื่อข่าวได้ตรวจพบว่าการขอรับการช่วยเหลือกรณีประสบสาธารณภัยวาตภัย ในรอบที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย ประกอบด้วยในพื้นที่ ตำบลวัดธาตุ ,ตำบลปะโค ,ตำบลหาดคำ ตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่จงใจ สร้างเอกสารเท็จ เพื่อประโยชน์ แก่พวกพ้องของตนเอง และอาจมีการเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทน กรณีที่ได้รับเงินชดเชย รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชนในพื้นที่บางคนต้องการ สร้างฐานเสียง เพื่อความนิยมหรือหวังผลทางการเมือง ที่จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ โดยการใช้ช่องว่าง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้าสู่ตนเอง ทั้งที่ตนเองไม่รับความเสียหายจริง เช่น บ้านเรือน คอกสัตว์ โรงเก็บพืชผลผลิต ไม่ได้รับความเสียหาย โดยผู้สื่อข่าวยังตรวจสอบพบอีกว่ามีเจตนาจัดส่งเอกสารล่าช้าโดยใช้เวลา 60 วันขึ้นไป ทั้งที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนซึ่งต้องเร่งรัดให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงขัดต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย เงินทดลองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ. ศ. 2562 ที่ต้องการให้เกิดความรวดเร็วเหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ และเป็นจริง ทำให้ หลักฐานประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วนถูกต้อง เช่นไม่มีภาพถ่ายที่ชัดเจน ประมาณการสูงไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำเอกสารปลอมขึ้นมา ซึ่งส่อเจตนาทุจริต และเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบเชิงลึกลงไปอีกพบว่าคณะกรรมการในระดับอำเภอไม่ให้ความสำคัญ ขาดการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของทางราชการ ทั้งนี้สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่าขบวนการนี้น่าจะทำกันอย่างเป็นระบบ มีคนสั่งการ และเจ้าหน้าที่รัฐบางคนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด โดยอาจเพื่อหวังผลประโยชน์ต่างตอบแทน การเรียกรับค่าตอบแทน เพราะเกิดวาตภัยตั้งแต่เดือนเมษายน ทำไมต้องใช้เวลาตรวจสอบถึง 2 เดือนกว่า ซึ่งตามระเบียบแล้วเขาให้ช่วยเหลือโดยด่วนเหมาะสม และเป็นไปตามข้อเท็จจริง โดยตัวอย่างที่สื่อมวลชนตรวจพบเช่นบ้านบางหลังต่อเติมไม่เข้าเงื่อนไข และไม่ได้รับความเสียหาย แต่แจ้งขอรับการช่วยเหลือ ,แจ้งขอรับการช่วยเหลือโดยแจ้งว่าเป็นโรงเก็บพืชผลผลิตแต่ข้อเท็จจริงเป็นโรงงานปลาร้า ,ขอรับความช่วยเหลือบ้านที่อยู่อาศัยเสียหาย แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นโรงสี ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ,ขอรับความช่วยเหลือเป็นไม้ แต่สังกะสีเสียหาย ,แจ้งเล้าไก่เสียหาย เมื่อตรวจสอบพบเป็นโรงร้างไม่ได้เลี้ยงไก่ ,แจ้งเป็นโรงเก็บผลผลิตแต่ข้อเท็จจริงเป็นโรงจอดรถบรรทุก รถไถ เป็นต้น สำหรับกรณีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดหนองคาย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการทำหนังสือซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติให้กับอำเภอเมืองหนองคายไปแล้ว ซึ่งในข้อเท็จจริงหน่วยงานที่รับผิดชอบมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือโดยฉับพลันทันด่วนและต้องบรรเทาพร้อมแก้ไข ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว ถ้าล่าช้าแบบนี้มันก็ ไม่เข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ ไม่เป็นไปตามระเบียบ สุดท้ายปัญหาก็จะโยนให้กับจังหวัด โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังร่างหนังสือส่งเรื่องคืนให้อำเภอเมืองหนองคาย กลับไป พิจารณาทบทวนมาใหม่ เพื่อให้เกิดความถูกต้องโปร่งใส ป้องกันการทุจริต ที่สำคัญประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากวาตภัยตัวจริงจะได้รับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ต่อไป.