ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าเต็มที่ช่วยลูกค้าช่วงโควิด-19 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 ราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000ล้านบาท และให้เงินทุนเพิ่มกับลูกค้า 94,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤติรวม 156,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการพิเศษ“เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ”และ“สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี”มียอด 1,144 ล้านบาท รักษาการจ้างพนักงาน 49,000 ราย ประเมินหลังจบมาตรการพักต้นอาจมียอด 40% ที่ไม่กลับมา นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 ราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000ล้านบาท และการให้เงินทุนเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับลูกค้าธุรกิจ 94,000 ราย จำนวน 156,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30% โดยธนาคารฯ ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้าที่ยังเดือดร้อนให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่รอดต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในจำนวนที่ 650,000 ราย คิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000 ล้านบาทนั้น โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ มีวงเงินพักต้น 746,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 293,000 ราย ปล่อยกู้เพิ่ม 143,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 60,000 ราย เป็นส่วนของลูกค้าบุคคลที่พักต้น 82,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 356 ราย ปล่อยกู้เพิ่ม 13,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 34,000 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนสินเชื่อเพิ่มที่ปล่อยให้กับลูกค้าธุรกิจนั้น เป็นส่วนของโครงการ“เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” และ“สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี”จำนวน 1,144 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาการจ้างพนักงานได้จำนวน 49,000 ราย "ภายหลังจากหมดระยะพักต้นและดอกเบี้ยนั้น ธนาคารก็ยังประเมินสถานการณ์ลำบากว่าจะมีลูกค้าธุรกิจที่สามารถกลับมาชำระคืนได้ขนาดไหน เพราะปัจจัยต่างๆยังไม่แน่นอนเช่น จะมีโควิดระลอก 2 หรือไม่ ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เข้าโครงการหรือมาขอสินเชื่อเพิ่มนั้น บางส่วนอาจจะขอไว้เพื่อสำรองความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นก่อนก็ได้ แต่เท่าที่เราดูๆในเบื้องต้นสัก 40% ที่อาจจะไม่ได้คืนมาซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนจะต้องดูตามสถานการณ์เป็นระยะๆด้วย แต่ธนาคารเองก็มีหลักประกันของสินเชื่อโดยรวมอยู่ประมาณ 80%อยู่แล้ว" ขณะที่โครงการ“เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ”นั้น เป็นโครงการที่ธนาคารลดดอกเบี้ยให้กับธุรกิจที่ยังมีกำลังอยู่ เพื่อให้เจ้าของนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน และโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นการให้เงินทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กในอัตราดอกเบี้ย 0% 10 ปี โดยปีแรกไม่ต้องจ่ายคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้ผลตอบรับที่ดีและเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ธนาคารตั้งไว้ โดยให้เงินช่วยลูกค้าไปแล้วรวม 1,144 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาการจ้างพนักงานได้จำนวน 49,000 ราย จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาทซึ่งส่วนหนึ่งต้องขอบคุณน้ำใจจากเจ้าของธุรกิจบางรายที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของธนาคารฯ เนื่องจากมองว่าตัวเองยังไหวและเข้าใจดีว่าธนาคารฯ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคน จึงเสียสละเพื่อให้ธนาคารฯ นำเงินไปช่วยเหลือธุรกิจที่เดือดร้อนกว่า ทั้งนี้ในช่วงตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลูกค้าธุรกิจของธนาคารมียอดรวมเงินฝากเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าบางส่วนยังมีกำลังพอที่จะชำระหนี้หลังครบกำหนดพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยธนาคารติดต่อลูกค้าเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์หรือดูความจำเป็นของลูกค้าเพื่อนำเสนอความช่วยเหลือที่เหมาะสม ทั้งนี้หากลูกค้าท่านใดที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อเข้ามาที่ธนาคารได้ ธนาคารมีความตั้งใจเต็มที่จะช่วยให้ลูกค้าที่เดือดร้อนด้วยเงินทุนที่ธนาคารมีอยู่ "แม้ในช่วงวิกฤตที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ลูกค้ายังมีวินัยทางการเงินและมีการชำระหนี้เข้ามา ธนาคารฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกคน หากทุกคนช่วยเหลือและร่วมมือกันเราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน"