ดนตรี / วรรณากร ทองเสริม เมื่อเอ่ยถึงชื่อ เจสัน มราซ สำหรับคอเพลงชาวไทยสายฟีลกู้ด คงไม่ต้องอธิบายกันยืดยาวว่าชื่อนี้คือใคร มาจากไหน ตลอดเวลาเกือบ 20 ปีนับตั้งแต่มีผลงานเปิดตัวชุด Waiting For My rocket To Come เจสัน มราซ ก็ส่งมอบบทเพลงที่กลายเป็นที่ชื่นชอบให้คนทั่วโลกได้ฟังหลายต่อหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น “The Remedy (I Won't Worry)”, “You And I Both”, “I'm Yours”, “I Won't Give Up” หรือ “Lucky” เพลงที่ร้องคู่กับศิลปินสาว โคลบี้ คัลเล่ต์ ก็เป็นที่จดจำของแฟนเพลงมากมาย แม้ในช่วงหลังจะดูแผ่วๆ ไปบ้าง แต่เมื่อใดที่มีข่าวคราวหรือมีผลงานของเขาออกมา แฟนๆ ก็ยังคงให้การต้อนรับเป็นอย่างดี Look For The Good เป็นผลงานชุดล่าสุดของเขาและเป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 เป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยพลังบวกมากเสียจนมีคนหมั่นไส้ แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเขาเลย ออกจะเป็นการดีเสียด้วยซ้ำที่เราจะได้ฟังเพลงที่ปลอบประโลมจิตใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างในตอนนี้ ในจำนวน 12 เพลงของอัลบั้ม มีบ้างบางเพลงที่เด่นกว่าเพื่อน เช่น เพลงที่เป็นไตเติลแทร็กอย่าง “Look For The Good” นั้นเด่นชัดว่าเป็นการเรียกร้องให้คนมองหาแง่งามของชีวิต พร้อมกับให้กำลังใจไปด้วย ขณะที่ “Good Old Daze” พูดถึงการปล่อยอารมณ์ในวันสบายๆ ที่เข้ากันดีกับบรรยากาศชิลๆ ของเพลง แล้วยังมีเพลงที่เป็นลูกผสมที่น่าสนใจของเร็กเก้กับโมทาวน์ซาวนด์อย่าง “Make Love” กับเร็กเก้สนุกๆ อย่าง “Wise Women” ที่น่าจะใกล้เคียงรูปแบบงานเก่าๆ ที่แฟนเพลงชื่นชอบที่สุด ใน Look For The Good เจสัน ผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลาย แน่นอนว่าโฟล์ค ป๊อป และบราซิลเลียน ยังคงเป็นพื้นฐาน แต่เที่ยวนี้ดูเหมือนจะมีสีสันของเร็กเก้ให้ฟังมากที่ผ่านมาในระยะหลัง คล้ายกับจะกลับไปหางานในยุคแรกๆ ของเขา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ฟังใสๆ ซื่อๆ แบบในวันวานอีกแล้ว งานเรียบเรียงและบันทึกเสียงที่ซับซ้อนและประณีตขึ้นอาจทำให้ขาดเสน่ห์ของความสดใหม่ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว เจสัน ก็ยังคงเป็น เจสัน เป็น “มิสเตอร์ซันไชน์” ที่ส่งผ่านความรู้สึกดีๆ สู่คนฟังผ่านบทเพลงของเขาเสมอ