วันที่ 1 ก.ค.63 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณี 64 โดยเมื่อเวลา 20.00 น.นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนขอยกตัวอย่างภาพข่าวเป็นความทุกข์ของชาวบ้านสองราย คือ 1.หญิงคนหนึ่งเสื้อผ้าตากเสื้อนักเรียนเตรียมเอาไว้ให้ลูกใส่วันเปิดเทอมเเต่เข้ามาถูกขโมย 2.ผู้หญิงอีก1คน ตกงานไม่มีทางไป จนต้องไปขโมยชุดนักเรียนจนถูกจับกุม เเม้สองเหตุการณ์ต่างกรรมน่างวาระเเต่มันตอกย้ำความลำบากยากเข็ญที่ประชาชนกำลังพบอยู่ทั่วทุกหัวระเเหง ไม่แปลกที่ธนาคารเเห่งประเทศไทยเเละธนาคารโลก ต่างบอกว่าไทยกำลังเข้าสู่ภาวะ3 ที่สุด คือ1.จีดีพีต่ำที่สุดในรอบ10 ปี 2.คนตกงานสูงที่สุดในรอบ20 ปี 3.เศรษฐกิจถดถอยที่สุดในรอบ60 ปี ตนจึงคาดหวังอย่างสูงกับการจัดทำงบประมาณ ปี64 จะสามารถเป็นกลจักรบรรเทาความเดือดร้อนได้ แต่พอมาดูรายละเอียดกลับไม่ตอบโจทย์ ขอเรียกว่าการทำงบประมาณหวานเย็น ทำโดยไม่ใส่ใจผลกระทบโควิด-19 เท่าที่ควร สุดท้ายเพียงเเค่เขียนคำว่าโรคโควิด แปะเอาไว้ในบทนำงบประมาณ ที่ผ่านมาเราจะขับรถเเบบหวานเย็น กินลม ชมวิวไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ผู้โดยสารในเปลี่ยนไป มีคนเจ็บ คนป่วยอาการหนักขั้นวิกฤตจำนวนมาก ซ้ำร้าย เชื้อเพลิงในรถก็มีน้อยนิด พายุอีกหลายลูกก็กำลังโถมเข้ามา แต่เรากลับจะขับรถเเบบเดิมๆ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง เท่านั้น "การจัดสรรงบต้องตอบโจทย์ระยะสั้นและระยะยาว โดยผู้ป่วยที่กำลังโคม่า คือพ่อค้าเเม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อยกำลังหายใจรวยริน โดยเมื่อไปดูยุทธศาสตร์ 6 ข้อ มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ 2 ยุทธศาสตร์ คือยุทธศาสตร์ที่2 แต่มีเพียง3 แผนงานเท่านั้น ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภาคจริง คิดเป็นวงเงินเเค่ 1.4 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน4 เเสนกว่าบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละไม่ถึง 1% ของงบประมาณทั้งหมด และยุทธศาสตร์ที่4 ที่เกี่ยวข้องกับการลดความเหลื่อมล้ำ โดยเเผนเรื่องสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก เขียนเอาไว้เสียตอบโจทย์ มี30 กว่าด้าน อาทิ การพัฒนาสินค้าชุมชน การค้าขายออนไลน์ แต่กลับได้รับการจัดสรรวงเงินเพียง 2,688 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากถ้าเทียบกับงบด้านอื่น เช่น งบพัฒนาบุคลากรภาครัฐ ที่เเทรกซึมอยู่ในเเทบจะทุกยุทธศาสตร์ ซึ่งตนลองคิดตัวเลขรวมกันได้ถึง 770,000ล้านบาท จึงไม่ได้สัดส่วนที่สมดุลย์ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนตัวเชื่อว่าการวิจัยพัฒนาจะเป็นฐานรากแก้เศรษฐกิจระยะยาว โดยพบว่างบวิจัยในส่วนของการศึกษา รัฐกำหนดไว้ 260 ล้านบาท ด้านชุมชน 22ล้านบาท ด้านสังคมสิ่งเเวดล้อมปีนี้กำหนดไว้ 0 ในขณะที่ด้านอื่นๆสูงมาก ซึ่งขาดความสมดุล จึงมองว่างบ 64 ควรจะปรับปรุงเพื่อตอบโจทย์ ทั้งระยะสั้นเเละระยะยาว ขอย้ำว่างบประมาณปี64 ควรเกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎรอย่างเเท้จริง ไม่ใช่ราชการ "