หลวงพ่อปากแดงพระประธานประดิษฐานภายในโบสถ์โบราณอายุ120ปีให้โชคลาภชาวบ้านตลอดนักเสี่ยงโชคมาบนบานสานกล่าวประสบผลสำเร็จทุกรายและจัดงานใหญ่ประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ในเดือน3ติดต่อกันมานับร้อยปีแต่สภาพปัจจุบันทรุดโทรมหนัก
วันที่1ก.ค.63 พระครูสุระธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดอีสาน หมู่ที่7 ตำบลบ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้พระอุโบสถโบราณแบบอีสานอายุประมาณ 120ปีมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก โบสถ์เก่าแห่งนี้นี้มีลักษณะพิเศษคือมีพระประธานที่ปั้นด้วยดินเหนียวปรางค์สมาธิบริเวณริมฝีปากเป็นสีแดง ชาวบ้านเรียกว่าวัดหลวงพ่อปากแดง และตัวอุโสถส์สร้างด้วยแรงงานคนมีโครงสร้างเป็นเสาไม้หลังคามุงสังกะสีผนังก่ออิฐแบบอีสานโบราณ สภาพปัจจุบันปลวกได้กัดกินจนไม้บางท่อนขาดออกจากผนังก่ออิฐยุบทรุดตัวทำให้เกิดการผุก่อนมากขึ้นไปอีกส่วนทางด้านหลังคาที่มุงด้วยสังกะสีเกิดการผุกร่อนไปตามกาลเวลา ด้านโครงสร้างหลายๆจุด ปูนที่ก่อและฉาบหยาบๆตามแบบโบราณก็มีรอยแตกร้าว เนื่องจากรากฐานที่ดั้งเดิมในการก่อสร้างจะไม่มีการตอกเสาเข็มแต่จะใช้กำลังคนช่วยกันตอกอัดดินเป็นฐาน
ต่อมาเมื่อประมาณเมื่อ6ปีที่ผ่านอุโบสถส์โบราณได้เกิดทรุดตัวชาวบ้านจึงช่วยกันใช้เหล็กเส้นมายึดไว้แต่ยังมีการทรุดตัวลงเรื่อยๆ ทางวัดต้องการอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้เป็นที่ศึกษาและสืบสานประวัติศาสตร์ของชุมชนและพระพุทธศาสนาจึงได้ประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อหาเงินมาสร้างอาคารมุงหลังคาครอบตัวโบสถ์โบราณไว้โดยจะไม่มีการดัดแปลงต่อเติมใดๆปล่อยให้คงสภาพเดิมเกรงอาจจะเกิดปัญหาตามมาเหมือนวัดอื่นๆที่ตกเป็นข่าว แต่ถึงอย่างไรการก่อสร้างอาคารครอบโบสถ์โบราณนั้นในปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากทางวัดไม่มีเงินพอเพราะค่าก่อสร้างประมาณ2-3ล้านบาทจึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสนับสนุนงบประมาณ
ด้านพระครูโสภณกิตยากร เจ้าคณะตำบลบ้านเพชร กล่าวว่าตามหลักฐาน วัดอีสาณแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2436สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่8ไร่1งาน60ตารางวา โดยมีชาวบ้านอุบาสกอุบาสิกาในหมู่บ้านร่วมกันสร้างวัดเดิมเรียกกันว่าวัดใต้ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นวัดหรดีได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2445 กว้าง6เมตร ยาว19เมตร มีพระประธานปางสมาธิ ปั้นด้วยดินเหนียวสีดำและมีลักษณะเด่นคือปากสีแดงและที่วัดจะมีงานบุญประเพณีในช่วงเดือน3ของทุกปีสืบเนื่องกันมานับ100ปีซึ่งชาวบ้านรายหนึ่งยืนยันว่าหลวงพ่อปากแดงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านทั่วไปทุกวันจะนำผลไม้ของเซ่นไหว้มาแก้บนและแวะเวียนกันมากราบไหว้บางคนบนบานสานกล่าวและทุกต้นเดือนและกลางเดือนจะมีนักเสี่ยงโชคมาอธิฐานขอเลขเด็ดกันเป็นประจำทุกงวดเช่นกัน
ต่อมาเมื่อประมาณเมื่อ6ปีที่ผ่านอุโบสถส์โบราณได้เกิดทรุดตัวชาวบ้านจึงช่วยกันใช้เหล็กเส้นมายึดไว้แต่ยังมีการทรุดตัวลงเรื่อยๆ ทางวัดต้องการอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้เป็นที่ศึกษาและสืบสานประวัติศาสตร์ของชุมชนและพระพุทธศาสนาจึงได้ประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อหาเงินมาสร้างอาคารมุงหลังคาครอบตัวโบสถ์โบราณไว้โดยจะไม่มีการดัดแปลงต่อเติมใดๆปล่อยให้คงสภาพเดิมเกรงอาจจะเกิดปัญหาตามมาเหมือนวัดอื่นๆที่ตกเป็นข่าว แต่ถึงอย่างไรการก่อสร้างอาคารครอบโบสถ์โบราณนั้นในปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากทางวัดไม่มีเงินพอเพราะค่าก่อสร้างประมาณ2-3ล้านบาทจึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสนับสนุนงบประมาณ
ด้านพระครูโสภณกิตยากร เจ้าคณะตำบลบ้านเพชร กล่าวว่าตามหลักฐาน วัดอีสาณแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2436สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่8ไร่1งาน60ตารางวา โดยมีชาวบ้านอุบาสกอุบาสิกาในหมู่บ้านร่วมกันสร้างวัดเดิมเรียกกันว่าวัดใต้ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นวัดหรดีได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2445 กว้าง6เมตร ยาว19เมตร มีพระประธานปางสมาธิ ปั้นด้วยดินเหนียวสีดำและมีลักษณะเด่นคือปากสีแดงและที่วัดจะมีงานบุญประเพณีในช่วงเดือน3ของทุกปีสืบเนื่องกันมานับ100ปีซึ่งชาวบ้านรายหนึ่งยืนยันว่าหลวงพ่อปากแดงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านทั่วไปทุกวันจะนำผลไม้ของเซ่นไหว้มาแก้บนและแวะเวียนกันมากราบไหว้บางคนบนบานสานกล่าวและทุกต้นเดือนและกลางเดือนจะมีนักเสี่ยงโชคมาอธิฐานขอเลขเด็ดกันเป็นประจำทุกงวดเช่นกัน