วันที่ 1 ก.ค. ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.05 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายร่างพรบ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า งบประมาณมีความสำคัญสำหรับการบริหารประเทศที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับสภาวะของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ในภาวะโควิด19 แต่นายกฯไม่ได้ระบุถึงวิธีการแก้ไขอย่างใด การทำงบประมาณครั้งนี้ต้องพิเศษกว่าทุกครั้ง คือ ต้องรองรับวิกฤตเศรษฐกิจ แม้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดน้อย แต่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจสูงเป็นสิ่งที่น่ากังวล ซึ่งมาตรการของรัฐบาลใช้ต้นทุนสูงเกินความจำเป็นและอาจเสียหายเกิน 2 ล้านล้านบาท เป็นวิกฤตที่ลงลึกกว่าต้มยำกุ้งด้วยซ้ำ การฟื้นตัวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งรัฐบาลต้องรักษาธุรกิจไม่ให้ล้ม การรักษาการจ้างงาน และป้องกันไม่ให้ลามไปถึงระบบการเงินของประเทศ แต่เวลานี้ธุรกิจค่อยๆล้มและเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก และปัญหาจะลามไปถึงสถาบันการเงิน โดยเฉพาะหนี้เสียที่ธนาคารปล่อยกู้เงินไปนั้นจะเกิกขึ้นสูงและรวดเร็วมาก" นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า งบประมาณปี 2564 จัดสรรแบบเก่า เน้นการก่อสร้าง และการอบรมสัมมนา เสมือนทำไปวันๆเหมือนทุกปีตามที่ส่วนราชการเสนอมา รัฐบาลไม่ได้มองไปที่ภาพใหญ่ว่าประเทศไทยจะก้าวไปทิศทางไหน จะรับรองธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่อย่างไร เราจะเอาประเทศของเราไปอยู่ส่วนไหนของห่วงโซ่อุปทานใหม่ของโลก นโยบายการแจกเงินนั้นเป็นเพียงการหาคะแนนความนิยม "หากดำเนินการไม่ถูกต้องจะเป็นอันตรายต่อประเทศมาก หากรัฐบาลชี้แจงไม่ได้ก็คงจะสนับสนุนงบประมาณนี้ให้ผ่านไปไม่ได้" นายสมพงษ์ กล่าว