วันที่ 30 มิ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีการเตือนภัยระวังโดนหยอดยาเสียสาวขณะไปเที่ยวสังสรรค์ตามสถานบริการหรือสถานที่สุ่มเสี่ยง นั้น ว่าขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวนั้น จากการตรวจสอบของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า ยาเสียสาวที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและกลุ่มยานอนหลับ ซึ่งมักอยู่ในรูปของเหลวใสหรือเป็นผง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ โดยจากข้อมูลจากแผนประทุษกรรมของผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะแบบนี้ จะอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอหยอดยาหรือของเหลวลงในเครื่องดื่มให้เหยื่อดื่ม เมื่อเหยื่อหลงทานหรือดื่มเข้าไป อาจทำให้กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ หรือมีอาการมึนเมา หรือสลบและสบโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะต่อผู้หญิงที่อาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์ หรือ ลักทรัพย์ เป็นต้น ที่ผ่านมาในด้านป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ กองบัญชาการทุกภาคส่วนและ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ออกตรวจสอบ ตรวจค้น ยึด กดดัน จับกุม ร้านค้าหรือผู้ที่ลักลอบจำหน่ายขายยาปลุกเซ็กซ์ หรือ ยาเสียสาว ซึ่งผิดกฎหมาย ที่มักพบตั้งริมทางในย่านสถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิงยามค่ำคืนและแพร่หลายตามสื่อโซลเชียลมิเดีย มาโดยตลอด พร้อมทั้งยังกำชับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างช่องทางการรับรู้ การป้องกัน และระวังภัย แก่เด็ก เยาวชนรวมไปถึงประชาชนที่อาจถูกฉวยโอกาสก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวฝากเตือนสำหรับการเที่ยวหรือสังสรรค์ตามสถานบริการหรือสถานที่สุ่มเสี่ยง ขอให้มีความระมัดระวังอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าหรือคนไม่รู้จัก ก่อนจะดื่มเครื่องดื่มหรือของเหลวใดๆควรตรวจสอบให้ดี ว่าปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้สำหรับผู้เสียหายที่ถูกกระทำหรือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ ๆ เกิดเหตุได้โดยตลอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พร้อมให้ความเป็นธรรมและสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา บก.ปคบ. ได้ออกตรวจสอบ และจับกุมร้านค้าหรือผู้ที่ลักลอบจำหน่ายขายยาปลุกเซ็กซ์ หรือ ยาเสียสาว มาโดยตลอด สำหรับข้อหาความผิดของ ผู้จูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพฯ มีโทษจำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท หากกระทำต่อหญิงหรือต่อบุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต ปรับ 60,000 – 500,000 บาท , ผู้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ โทษจำคุก 1 – 5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท และ ผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย โทษจำคุก 5-20 ปี ปรับ 100,000 – 400,000 บาท และอาจมีความผิดในฐานอื่นอีกหากการขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือพบการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย