“ศบค.”เผยไทยไม่มีผู้ติดโควิด-19 รายใหม่-เสียชีวิต ปลื้มไร้ผู้ติดเชื้อในประเทศ 34 วัน ด้าน “อียู” เลื่อนเปิดพรมแดน 14 ชาติเหยื่อไวรัสเข้าประเทศ ระบุ มี“ไทย” ติดโผ ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสมรณะทั่วโลก เหยื่อป่วยทะลุ 10 ล้านราย “ลุงแซม” รั้งอันดับหนึ่ง เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่รอบวันส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวแทนที่ผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันโรคโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก “ศูนย์ข้อมูล COVID-19” ว่า วันนี้ไม่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ หรือผู้ป่วยเป็น 0 ราย ทั้งการติดเชื้อในประเทศ ซึ่งเป็น 0 ราย ต่อเนื่องวันที่ 34 และไม่มีการติดเชื้อของผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวมคงที่ 3,162 ราย ไม่มีหายป่วยและเสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้กลับบ้านรวมเป็น 3,053 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 51 ราย เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 58 ราย สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การเปิดพรมแดนของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งมีกำหนดการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ มีอันต้องเลื่อนออกไป ภายหลังจากทางการชาติสมาชิกอียูในบางประเทศ ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ เนื่องจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่ของหลายๆ ประเทศยังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรง รายงานข่าวแจ้งว่า การเจรจาซึ่งมีขึ้นหลายวันก่อนหน้า กระทั่งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดานักการทูตของอียู ได้เสนอรายชื่อ 14 ประเทศ ให้รัฐบาลของตนพิจารณา แต่ปรากฏว่าทางการของบางประเทศสมาชิกอียู จนถึงขณะนี้ยังหารือกันอยู่ โดยคาดว่าอาจจะลงมติในวันจันทร์นี้ สำหรับ รายชื่อ 14 ประเทศข้างต้น ได้แก่ อัลจีเรีย ,ออสเตรเลีย, แคนาดา ,จอร์เจีย, ญี่ปุ่น, มอนเตเนโกร ,โมร็อกโก ,นิวซีแลนด์ , รวันดา, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้ ,ตูนิเซีย ,อุรุกวัย และไทย ซึ่งรายชื่อกลับไม่มีสหรัฐฯ ประเทศที่กำลังมีสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ รุนแรงที่สุดในโลก ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 10,086,969 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 501,393 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 5,464,271 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 2,596,537 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 128,152 ราย ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมง ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นคนหนุ่มสาว อยู่ในช่วงอายุต่ำกว่า 33 ปี ซึ่งแตกต่างจากในช่วงที่ผ่านๆ มา ที่มักจะเป็นผู้สูงอายุ หรือมากกว่า 65 ปี ซึ่งรายงานเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นวัยหนุ่มสาวข้างต้นในรอบวันที่ผ่านมา มีจำนวนมากถึง 9,585 ราย