เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ทวิศิษฐ์ พลบม่วง,รอง ผกก.2 บก.ป. และพ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสุริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ตามหมายจับ ที่ 489/2561 ลงวันที่ 28 พ.ค.61 โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง,ร่วมกันข่มขืนใจฯ, บุครุกเคหะสถานในเวลากลางคืนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน" ได้ที่ ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 ม.ค.61 นายสุริยา (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นอาสาสมัครตำรวจในหมู่บ้าน ได้ร่วมกับพวกรวม 2 นาย ได้ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านอาหารข้าวแกง ภายในชอยรามคำแหง 2 โดยทำทีเข้าตรวจค้นภายในร้านว่าพบน้ำกระท่อม ก่อนนำตัวเหยื่อ 2 สามีภรรยานั่งรถไปด้วยกันพูดจา ข่มขู่ เพื่อรีดเงิน อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ผู้เสียหายยอมจ่ายเงินจำนวน 50,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว โดยเมื่อผู้ต้องหาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เมื่อต้นเดือน ก.พ.61 แต่หลังจากถูกดำเนินคดีแล้ว นายสุริยา (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีการประกันตัว แอบออกมาประกอบอาชีพเป็นพนักงานรับรถ ตามร้านอาหารต่างๆ ย่านพัทยาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จึงได้ติตามจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีอีกครั้ง จนกระทั่งชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับญาติที่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จึ่งได้เข้าทำการจับกุมตัวนำตัวส่งศาลอาญารัชดาเพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าตนได้หลบหนีคดีเมื่อปี พ.ศ.2561 โดยตนไม่ไปศาลตามกำหนดนัดและหลบหนีจนมาถูกจับกุมดังกล่าว