บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ร่วมพัฒนาและให้บริการดาวเทียมรูปแบบใหม่ ขยายธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม พร้อมรองรับการเติบโตอุตสาหกรรมดิจิทัลและกิจการดาวเทียม โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เนชั่น สเปซ แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 10,000,000 บาท และมีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง ไทยคม และ CAT 75:25 ร่วมกันให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียม อาทิ ธุรกิจดาวเทียมวงโคจรต่ำ นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย เปิดเผยว่า การประกาศจัดตั้ง บริษัท เนชั่น สเปซ แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 องค์กร ด้วยความรู้และประสบการณ์อันยาวนานในอุตสาหกรรมด้านดาวเทียมของไทยคม ประกอบกับความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นของ CAT จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยต่อยอดและพัฒนาเทคโนโลยี ก่อให้เกิดบริการดาวเทียมรูปแบบใหม่ ที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมดิจิทัลต่างๆ อย่างแพร่หลาย “ไทยคมมุ่งหวังให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยั่งยืนระหว่างไทยคม และ CAT และจะเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จในการร่วมกันพัฒนาการสื่อสาร และเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของระบบโทรคมนาคมไทยที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต” พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า ในโลกยุคปัจจุบันเมื่อการสื่อสารผ่านดาวเทียมมีความจำเป็นเพิ่มขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมจึงต้องไม่หยุดนิ่ง ด้วยศักยภาพผู้นำในการให้บริการดิจิทัลและโทรคมนาคมของประเทศ CAT ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาการให้บริการเทคโนโลยีผ่านระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ เพื่อตอบโจทย์ทุกการสื่อสารหลากหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้น และครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรได้เล็งเห็นว่า สถานการณ์การเกิดขึ้นของโควิด-19 ส่งผลทำให้พฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลง องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมีการปรับตัวใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำงานมากขึ้น ส่งผลให้การทำธุรกรรมทางออนไลน์ต่างๆ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น การพัฒนาบริการเทคโนโลยีผ่านระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ จะสามารถรองรับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในยุค New Normal ได้อย่างลงตัวอาทิ การใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในยุค 5G, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT (Internet of Things), M2M (Machine to Machine), Drone รวมไปถึง การประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงเช่น การผ่าตัดทางไกล ซึ่งเทคโนโลยีผ่านระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำจะช่วยลดข้อจำกัดและแก้ไขปัญหาในเรื่องพื้นที่การใช้บริการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกภาคส่วน