นอภ.ไทรโยคสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จับพระจ้างชาวบ้านโค่นป่า อ้างทำซุ้มซัด​ หลังได้รับการชี้เบาะแสจากชาวบ้าน นายอำเภอลุยเอง สั่งปลัดฝ่ายความมั่นคงพร้อมกำลัง อส.ฝ่ายปกครอง ร่วมทหาร ตำรวจ ตชด.ป่าไม้ นำกำลังเข้าตรวจสอบพบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ มีการแอบลักลอบตัดไม้กันเป็นว่าเล่นถึง 3 จุด แต่ละจุดเจอท่อนไม้ที่ถูกตัดโค่นทิ้งไว้เตรียมรอการชักลากออกจากป่าบนภูเขา จำนวน 22 ท่อนและตอไม้ชนิดเดียวกันหลาย 10 ตอนำกำลังเดินทางไปที่วัดเพื่อหาตัวผู้จ้างวานตามเบาะแสที่ได้รับแจ้ง พบพระลูกวัดยอมรับสารภาพ จ้างชาวบ้านให้แอบลักลอบเข้าไปในป่าเพื่อตัดไม้มาทำซุ้มวัด ประเมินค่าภาคหลวงค่าความเสียหายของรัฐ เกือบ 2 แสนบาท เวลา 16.00 น.ของวันที่ 25 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังได้รับการแจ้งเบาะแสการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจากชาวบ้านที่ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งภายในวัดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยคฯ ได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านแอบลักลอบเข้าไปตัดไม้ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บนภูเขาบ้านทุ่งฉาง หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยคฯ ภายหลังทราบเรื่อง นายสาวิตร เจียมจืระพร นายอำเภอไทรโยคฯ จึงได้สั่งการให้นายอนุสรณ์ สง่าแสง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงฯ พร้อมด้วย อส.ฝ่ายปกครอง นำกำลังไปประสานเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า(กจ.19) บ้องตี้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า(กจ.1) ท่าเสา เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.ค่ายสุรสีห์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที 136 เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ ปทส.ภาค 7 สนธิกำลังกว่า 20 นาย​ เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย บ้านทุ่งฉาง หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยคฯ จากการตรวจสอบพื้นที่ป่ารวม 3 จุด จุดแรกพิกัด 47 P 0504922 E 1549614 N พบท่อนไม้จำนวน 2 ท่อน ถูกตัดโค่นวางทิ้งไว้เพื่อรอการชักลากลงจากภูเขาออกจากป่า จุดที่ 2 พิกัด 47 P 0504922 E 1549614 N พบท่อนไม้จำนวน 19 ท่อน จุดที่ 3 พิกัด 47 P 0505586 E 1549586 N พบท่อนไม้จำนวน 1 ท่อน รวมไม้ท่อนทั้งสิ้น จำนวน 22 ท่อนซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ปริมาตร 11.57 ลบ.ม.คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง จำนวน 505.80 บาท ค่าเป็นเงินที่รัฐเสียหาย 154,700 บาท ไม้ท่อนที่พบมีสภาพใหม่สดผ่านการตัดทอนโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตรวจสอบหน้าท่อนไม้ไม่มีรอยดวงตราประทับของพนักงานเจ้าหน้าที่ จากการเดินสำรวจพื้นที่ป่าตามเส้นทางที่มีการนำท่อนไม้มาวางกองไว้ตามไหล่ทาง พบว่ามีร่องรอยการตัดต้นไม้จนเหลือแต่ตอไม้เป็นจำนวนมาก และรอยชักลากไม้ลงมาจากภูเขา เพื่อเตรียมขนย้ายออกจากป่า เจ้าหน้าที่จึงทำการตีดวงตราประทับไม้ จึงทำการขนย้ายท่อนไม้ไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเดินทางไปที่วัดหนองปลาซิว หมู่ 6 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยคฯ เพื่อสอบสวนปากคำพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งว่าพระที่วัดเป็นผู้ว่าจ้างชาวบ้านให้แอบลักลอบเข้าไปตัดไม้ในป่าบนภูเขา ซึ่งจากการสอบสวนปากคำพระสยาม หรือพระอาจารย์ดำ ยอมรับสารภาพว่า ท่อนไม้ที่พบเป็นของตนจริง ได้ว่าจ้างให้นายเหวย ไม่ทราบนามสกุล แอบลักลอบเข้าไปตัดไม้มาเพื่อก่อสร้างซุ้มวัด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่พระสยาม หรือพระอาจารย์ดำ กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 มาตรา 69 ฐานทำไม้ มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่มีรูปรอยตราค่าภาคหลวง หรือรูปรอยตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการกระทำผิดตาม พรบ.ป่าสงวนแกางชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 มาตรา 31 ฐานกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และควบคุมตัวไปทำการสึกจากการเป็นพระก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย