เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 (ลุ่มน้ำชีตอนบน-ตอนกลาง) และนายประสานต์ พฤกษาชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 (ลุ่มน้ำชีตอนล่าง-ลุ่มน้ำมูล) นำทีมร่วมประชุมวางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2563 เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากลุ่มน้ำชี-ลุ่มน้ำมูล ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ณ ห้องประชุม ลำน้ำชี สำนักงานชลประทานที่ 6 จังหวัดขอนแก่น นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ตามที่ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดี กรมชลประทาน ได้สั่งการให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2563 ของกรมชลประทาน สำนักงานชลประทานที่ 6 จึงได้ร่วมบูรณาการบริหารจัดการลุ่มน้ำชี-มูล ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการน้ำให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอสำหรับใช้ในฤดูฝนนี้และเก็บกักน้ำไวใช้ในฤดูแล้งหน้า รวมถึงเพื่อวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในช่วงฤดูฝนนี้ สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 6 ทั้ง 5 จังหวัดภาคอีสานกลาง ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ , ขอนแก่น , มหาสารคาม , กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก รวมทั้งสิ้น 1,109 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 5.323.58 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน (25 มิ.ย.63) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 1,180 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯรวมกัน จะเห็นได้ว่าพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบนและตอนกลาง ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกกว่า 4,100 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณร้อยละ 78 ของปริมาณความจุรวม ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนล่างและลุ่มน้ำมูล (สำนักงานชลประทานที่ 7) ปัจจุบันสถานการณ์น้ำภาพรวมมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังมีพื้นที่ที่สามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนนี้ได้อีกมาก ในด้านการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนปี 63 นั้น สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ดำเนินการตาม 8 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาล ด้วยการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยโดยได้ติดตั้งธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนระดับน้ำ กำหนดจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือหากเกิดน้ำท่วม การจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำ และจำลองคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนใหญ่ 3 แห่ง 6 กรณี รวมถึงได้ตรวจสอบสภาพอาคารชลประทานทั้ง 130 แห่ง และตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนทั้งหมด 110 แห่งให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เร่งรัดให้หน่วยงานเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือจำนวน 257 รายการ ไว้ประจำจุดเสี่ยงพร้อมเข้าช่วยเหลือได้ทันที ที่สำคัญได้นำเทคโนโลยีระบบการแจ้งเตือนภัยสถานการณ์น้ำ โดยเครือข่ายของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) ของสำนักงานชลประทานที่ 6 ทั้ง 5 จังหวัดมาใช้ในการติดตามแผนการบริหารจัดการน้ำ การประสานงาน การประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน และการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ จากการบูรณาการบริหารจัดการน้ำร่วมกันระหว่างสำนักงานชลประทานที่ 6 และสำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ร่วมกันวางแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการวางแผนรับมือก่อนน้ำมา แผนเผชิญเหตุในภาวะฉุกเฉิน และมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำยังไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน ที่พร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีหากเกิดอุทกภัย