เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่รัฐสภา เกียกกาย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีที่เคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในประเทศออสเตรเลียว่า กมธ.ได้เชิญ 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ทั้ง 2 หน่วยงานส่งเพียงเจ้าหน้าที่มาชี้แจงเท่านั้น โดยทางป.ป.ส.ได้ให้ข้อมูลค่อยข้างเป็นประโยชน์เกี่ยวกับคำพิพากษาจำคุกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งป.ป.ส.ได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เมื่อปี 2540 กระทรวงการต่างประเทศได้เคยประสานข้อมูลเรื่องนี้ไปยังออสเตรเลียพบว่า ข้อมูลต่างๆสอดคล้องกับคำพิพากษาในรัฐนิวเซาท์เวลตามที่ตนได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจร.อ.ธรรมนัสก่อนหน้านี้ โดยป.ป.ส.ได้มอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกอย่างให้กมธ.ได้ตรวจสอบต่อ     นายธีรัจชัย กล่าวว่า นอกจากนี้กมธ.ยังได้สอบถามกกต. ในส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นส.ส.ของร.อ.ธรรมนัส เมื่อครั้งลงสมัครการเลือกตั้งว่า ได้มีการตรวจสอบจริงหรือไม่ โดยทางสำนักงานกกต. แจ้งว่า การตรวจสอบมีทั้งสิ้น 16 หน่วยงาน แต่ไม่มีหน่วยงานด้านองค์กรศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป.ป.ส. ร่วมตรวจสอบคุณสมบัติด้วย จึงทำให้การตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ยังไม่ทั่วถึง แต่อย่างไรก็ตาม กมธ.ได้มีมติเลขาธิการกกต.มาให้ข้อมูลอีกครั้ง เนื่องจากยังให้คำตอบที่ยังไม่ชัดเจน และเชิญผอ.กกต.จังหวัดพะเยาด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า การตรวจสอบครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการของกมธ. เมื่อได้ผลอย่างไรก็จะเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบการวินิจฉัยคุณสมบัติหรือไม่นั้น เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล หากพรรคต้องการข้อมูล หรือศาลต้องการข้อมูลเรื่องนี้ต้องขออนุญากมธ.ว่า จะอนุญาตหรือไม่     "การตรวจสอบเรื่องนี้ยังเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 5 คน ที่จะเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อให้ข้อมูลคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย โดยจะมีการเชิญร.อ.ธรรมนัส มาชี้แจงเพื่อความเป็นธรรมด้วย ยืนยันว่า การตรวจสอบอย่างละเอียด และให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ไม่มีการตั้งธง แต่เพื่อต้องการวางบรรทัดฐานของการเข้าสู่ตำแหน่ง ทางการเมืองระดับสูงให้มีมาตรฐาน และรับผิดชอบต่อประชาชน" นายธีรัจชัย กล่าว