"ศบค."เปิดแผนมาตรการปลดล็อกเฟส 5 จำนวน 5 กิจกรรม "ห้างสรรพสินค้-อาบอบนวด-ผับ-บาร์-ร้านเกม"เริ่มเปิด 1 ก.ค.นี้ "นักธุรกิจชาวต่างชาติ"เข้าไทยต้องตอบรับมาตรการกักตัว14วัน ล็อตแรกเริ่ม 1 ก.ค. ขณะที่"Travel Bubble" เล็งทำ"วิลลา-ควอรันทีน" 1 ส.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงถึงการหารือของคณะกรรมการ ในที่ประชุม ศบค.ถึงมาตรการผ่อนคลาย ระยะ 5 ว่า มีการหารือในที่ประชุม เพื่อเตรียมเสนอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า 5 กิจกรรมที่จะมีมาตรการผ่อนคลายในระยะ 5 ต้องมีการลงทะเบียน แอปฯ "ชัยชนะ" เน้นต้องมีการลงทะเบียน ก่อนประกาศผ่อนคลายในระยะที่ 5 ต้องลงทะเบียนก่อนเข้า และก่อนออกจากสถานที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เข้าไปตรวจ ก็ต้องลงทะเบียนแอปฯ "ไทยชนะ" ด้วยเช่นกัน โดยเรียกชื่อว่า "ผู้พิทักษ์" ก็ต้องลงทะเบียน มีมาตรการคัดกรองวัดไข้ พัฒนานวัตกรรม ในการจองคิวแบบออนไลน์ การเรียนการสอน เพื่อให้ปฏิรูปรูปแบบใหม่ โดย 5 กิจการกิจกรรม ที่จะมีการผ่อนผันคือ การใช้อาคารสถานที่ เริ่มวันที่ 1 ก.ค.63 ได้แก่ 1.สถาบันของรัฐ เปิดบริการได้ทั้งหมด 2.ห้างสรรพสินค้า-คอมมูนิตี้มอล เปิดให้บริการได้ทั้งหมด โดยไม่จำกัดเวลาแล้ว 3.ผับ บาร์ คาราโอเกะ ต้องมีมาตรการควบคุมหลัก ต้องดูว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ จำหน่ายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ คือ ใบอนุญาตที่ให้สถานประกอบการ ขายได้ ตั้งแต่ 5 โมง-เที่ยงคืน มีดนตรี เต้นรำ ตรงนี้ต้องให้ออกคู่มือควบคุมอีกครั้ง ให้เปิดบริการได้ไม่เกิน 24.00 น. มีระยะยืน-นั่งห่างมากกว่า 1 เมตร จำกัดมาตรการใช้พื้นที่ 4 ตร.ม.ต่อคน ห้ามไปยุ่งกับกลุ่มอื่น อยู่กับกลุ่มที่มาด้วยกันได้ ต้องทำความสะอาดพื้นผิว ระยะห่างของโต๊ะ ต้องเกิน 2 เมตร หากทำไม่ได้ให้ทำฉากกั้น สูง 1.5 ม. ต้องมีระบบระบายอาการ ทุกคนไปต้องลงทะเบียน เข้าออกสถานที่คือ แอปชัยชนะ ขณะที่มาตรการเสริมคัดกรองอายุ ตรวจหาเชื้อโควิดกลุ่มพนักงานเป็นระยะ งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ พนักงานเชียร์เบียร์ต้องไม่มี แต่ต้องไม่อนุญาตินำสุรามากินในร้าน ห้ามรวมกลุ่ม เกิน 5 คน หลีกเลี่ยงการขายเบียร์เป็นเหยือก ที่ต้องมีภาชนะมาดื่มกิน เพราะเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ที่สำคัญต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ไว้ มากกว่า 1 เดือน ย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้าไปตรวจต้องมีการลงทะเบียนด้วยนะครับ โฆษกศบค. กล่าวต่อว่า 4.ร้านเกม-อินเทอร์เน็ต ต้องดูที่อายุ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้ 2 ช่วง วันจันทร์-ศุกร์ ช่วงบ่าย 14.00-20.00 น. วันหยุด 10.00-20.00 น. ส่วนอายุ 15-18 ปี ระยะเวลาใช้บริการเหมือนกับกลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนอายุมากกว่า 18 ปี ใช้บริการได้ 24 ชั่วโมง ทุกวัน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงวัฒนธรรมต้องออกคู่มือการปฏิบัติตัว ทั้งนี้ผู้เข้าใช้บริการ ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา ต้องมีการทำความสะอาศ พื้นผิวสัมผัส กำหนดระยะห่าง ต้องมากกว่า 5 ตร.ม.ต่อคน รวมทั้ง ตั้งเวลาทำความสะอาด ทุกๆ 15 นาที และต้องเช็คแอพ ชัยชนะ เข้า-ออกตลอดเวลา สำคัญมีกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพ ได้ไม่น้อยกว่า 1 เดือน งดการจักกิจกรรม แจกรางวัลทั้งหลาย และ5.อาบ อบ นวด ผู้ใช้บริการต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น อาบน้ำ เว้นระยะ การลุก นั่ง ยืน ระหว่างผู้บริการและผู้ใช้บริการ เกิน 1 เมตร ขึ้นไป ยกเว้นขณะอาบน้ำ ต้องไม่มีจำนวนลูกค้าแออัด และมีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานเป็นระยะ พร้อมมีการลงทะเบียน ยืนยัน โฆษกศบค. กล่าวยืนยันว่า โดยทั้งหมดจะมีการเสนอที่ประชุมใหญ่ ศบค.วันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะ 5 นี้ ดังนั้นยังไม่ได้อนุญาตให้เปิดให้บริการหรือใช้มาตรนี้ได้ทันที สำหรับผู้ประกอบการทั้ง 5 กิจกรรมนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ว่า การผ่อนคลายจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 มี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ดำเนินการให้เข้ามาได้ทันที คือ นักธุรกิจ/นักลงทุน มีลงทะเบียนไว้ 700 คน และอยู่ใน Waiting List เมื่อเข้ามาจะต้องถูกกักตัวตามมาตรการ 14 วัน และกลุ่มที่ให้เข้ามาได้ในวันที่ 1 ก.ค. หลังเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาเห็นชอบวันที่ 29 มิ.ย. คือ แรงงานฝีมือ/ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15,400 คน คนต่างด้าว กรณีเป็นครอบครัวคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทยจำนวน 2,000 คน ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 2,000 คน ส่วนนี้ต้องถูกกักตัว 14 วันเช่นกัน "ส่วนนักธุรกิจ/นักลงทุนหรือแขกของรัฐบาลที่เดินทางเข้ามาสั้นๆ เช่น ประชุมสัมมนา 2 วัน แล้วกลับ หรือลงนามสัญญาวันเดียวแล้วกลับ จะเสนอ ศบค.ให้เริ่มวันที่ 1 ก.ค.ด้วย โดยต้องมีมาตรการขั้นตอนตรวจเชื้อว่าปลอดโควิดทั้งต้นทาง เมื่อเดินทางถึงไทย มีประกันสุขภาพแสนเหรียญ และมีการจัดทีมติดตามทางการแพทย์อย่างน้อย 1 คน เพื่อกำกับดูแลสังเกตอาการ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขั้นที่ 2 กลุ่มที่จะขอให้ดำเนินการวันที่ 1 ก.ค.หรือเมื่อมีความพร้อม ได้แก่ กลุ่ม Medical and Wellness Tourism ซึ่งประมาณการว่าจะเข้ามาประมาณ 3 หมื่นคน โดยอาจเลือกไว้ในเขต กทม. ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย (ตามความพร้อม) และกลุ่ม Medical and Wellness Tourism ที่ผนวกกับการดำเนินงานด้าน Safety Tour หรือ SHA ขั้นที่ 3 โครงการทราเวล บับเบิล (Travel Bubble) แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ มาตรการวิลลา ควอรันทีน จะเริ่ม 1 ส.ค. โดยกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาแล้วพักกลุ่มก้อนเดียวกัน เพื่อสะดวกติดตามกำกับ เช่น เช่าบังกะโลชุดใหญ่ริมหาด บางคนมาอยู่เป็นสัปดาห์เป็นเดือนอยุ่แล้ว ก็อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด โดยจะเปิดบริการแบบนี้เพื่อนำเงินเข้ามา รุปแบบที่ 2 คือ ผ่อนคลายมาตรการกักตัว แต่จะเริ่มดำเนินการเมื่อพร้อมและสังคมเชื่อมั่นในมาตรการ ตรงนี้ต้องรอไปอีกสักระยะ ส่วนกลุ่มประเทศยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะตอนแรกหารือจีน ก็มีติดเชื้อปักกิ่ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะคุยก็มีติดเชื้อในประเทศก็ยืดออกไป ก็ต้องค่อยๆ คุยกัน เมื่อถามว่า ยังมีคนไทยรอกลับประเทศอีก แต่โควตาเข้ามาได้วันละ 500 คน เมื่อจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามา ควรรอให้คนไทยกลับก่อนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จะมีการขอเพิ่มโควตาเป็น 600 คนต่อวันหรือมากกว่า นอกจากนี้ คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับก็อาจเลือกเข้าพักสถานกักตัวแบบทางเลือกที่เป็นโรงแรมดีๆ จับมือกับ รพ.เอกชน ซึ่งยังมีห้องว่างอยู่ 605 ห้อง ก็จะกลับมาเพิ่มเติมได้ และอาจจะหารือโรงแรมในต่างจังหวัดเปิดเป็น Alternative Local Quarantine ด้วย ในจังหวัดที่มีสนามบินให้ต่างชาติลง เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย โดยจับคู่กับโรงพยาบาลเอกชน