สรรหาวิธีแปลก ทั้งยังใช้สารปรอทข้างในมาร่วมเสพ บางรายใช้หลอดไฟบดผสม อันตรายถึงชีวิตได้ แนะพ่อแม่ผู้ปกครองสอดส่องลูกหลานด้วยความใส่ใจ ไม่ใช่จับผิด ปรึกษาสายด่วนยาเสพติดได้ที่ 1165 นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้แพร่ระบาดเข้าสู่กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งอยากรู้อยากลอง จึงมักจะหาตัวยาใหม่ๆหรือวิธีเสพยาที่แปลก ไม่ว่าจะเป็นการนำปรอทวัดไข้มาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เสพยา ซึ่งเชื่อว่าปรอทวัดไข้ทำมาจากแก้วที่บางนำความร้อนได้ดี เผาระเหยเป็นไอได้ง่าย หรือแม้กระทั้งนำสารปรอทที่อยู่ในปรอทวัดไข้มาผสมยาเสพติด บางรายนำหลอดไฟมาบดแล้วผสมกับยาเสพติด เพื่อทำให้มึนเมา ทั้งหมดล้วนเป็นความเชื่อที่แฝงไปด้วยอันตราย การนำปรอทวัดไข้มาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เสพยาหรือนำปรอทที่อยู่ด้านในมาผสมยาเสพติดแล้วเสพเข้าสู่ร่างกายอันตรายมาก เพราะปรอทเป็นโลหะหนักมีสถานะเป็นของเหลว สามารถระเหิดกลายเป็นไอได้ดีที่อุณหภูมิห้องและจะกลายเป็นไอมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ไอปรอทไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีสีไม่มีกลิ่น หากได้รับเข้าสู่ร่างกายปริมาณมากแบบเฉียบพลัน จะทำให้หายใจลำบาก หอบ เจ็บหน้าอก ปากพอง เหงือกอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง เลือดออกในอวัยวะภายใน ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ไตวาย เกิดอาการทางระบบประสาท และอาจเสียชีวิตได้ นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวว่า การเสพยาเสพติดส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อสังคม ชุมชน รวมถึงร่างกายผู้เสพ ทำให้สุขภาพทรุดโทรม สมองถูกทำลาย เป็นสาเหตุเกิดอาชญากรรม ความรุนแรงและอุบัติเหตุต่างๆ จึงเตือนกลุ่มวัยรุ่นนักเสพที่นิยมหาวิธีหรือส่วนผสมที่แปลกใหม่ในการเสพยา ให้ระวังและตระหนักถึงอันตรายของสิ่งที่จะเข้าสู่ร่างกายให้มาก บางอย่างอันตราย อาจทำให้เสียชีวิตได้ แนะผู้ปกครองหมั่นสังเกตพฤติกรรมบุตรหลาน หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือพบวัสดุ อุปกรณ์ที่อาจนำไปสู่การเสพยา ต้องรีบเข้าไปพูดคุย ถามข้อมูล รวมถึงบอกกล่าวให้รู้ถึงอันตรายของสิ่งที่ทำและรีบพาไปปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หลังจากนั้นต้องพยายามหาเวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกัน ติดตามเฝ้าระวัง แต่ไม่ใช่จับผิดหรือระแวงไม่ไว้ใจ ให้โอกาสบุตรหลานในการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา อันจะนำไปสู่การลดละเลิกยาเสพติดได้ ทั้งนี้ หากประสบปัญหาเกี่ยวกับยาและสารเสพติด ขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จ.ปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th