เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2563 ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมแกนนำจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมประชุม โดยมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านฯ เป็นประธาน โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมห่วงกรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม ที่ได้ออกมาให้ข้อมูลให้เบาะแสที่คาดว่าอาจจะเกิดการทุจริตในหน่วยงานที่สังกัด แต่กลับถูกกองทัพดำเนินคดี โดยมองว่า ลักษณะเช่นนี้เป็นการขัดขวาง หรือการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องรัฐต้องส่งเสริมให้ประชาชน และข้าราชการหน่วยงานรัฐช่วยกันขจัด และป้องกันการทุจริต ซึ่งจะทำให้บุคคลที่ต้องการเปิดเผยการทุจริตรู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นพรรคประชาชาติ และพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงได้เสนอให้แก้ พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร เพื่อให้ทหารที่ถูกกล่าวว่ากระทำผิดต้องถูกดำเนินคดียังศาลยุติธรรม เช่นเดียวกับข้าราชการตำรวจ และข้าราชการอื่น ๆ ในเรื่องเขตอำนาจของศาลทหารด้วย เพราะขณะนี้ศาลทหารมีอำนาจไปรุกล้ำพลเรือน แม้แต่คดีทุจริตคอรัปชั่น ป.ป.ช. ยังส่งฟ้องต่อศาลทหารต่างกับข้าราชการอื่นที่ฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ พร้อมทั้งห่วงเรื่องกระบวนการในการพิจารณาคดีของศาลทหารด้วย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักฐาน ความถูกต้อง และให้ความเป็นธรรม ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านกังวลว่าหมู่อาร์ม จะไม่ได้รับสิทธิตามที่ได้รับ โดยเฉพาะการขอใช้สิทธิประกันตัว ที่คาดว่าจะมีการคัดค้าน แต่มองว่าคดีนี้ไม่ถือเป็นการก่ออาชญากรรม ซึ่งการขอประกันตัวเป็นสิทธิที่ทุกคนควรจะได้รับ และหมู่อาร์มไม่ควรได้รับการคุมขัง เพราะถือเป็นบุคคลตัวอย่างที่กล้าออกมาเปิดเผยเรื่องการทุจริต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาทหารบก พร้อมทั้งจะติดตามการทำหน้าที่ของศาลทหาร เพราะที่ผ่านมามีการตั้งข้อสังเกตว่าการพิจารณาคดีของศาลทหารมักไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายคดี นอกจากนี้ ที่ประชุม จะติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ ที่รัฐบาลจะนำไปฟื้นฟูสังคม และเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบการใช้งบประมาณดังกล่าว แต่ในสัดส่วนของกรรมาธิการพบว่ามีฝ่ายรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก จึงมองว่า จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลทำได้ยาก พร้อมทั้งห่วงเรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ว่า งบประมาณส่วนใหญ่มีหลายโครงการที่จะไปอุ้มคนรวย แต่ไม่มีโครงการที่จะนำไปเยียวยาการสร้างรายได้ โดยเฉพาะการแก้หนี้ครัวเรือน หรือหนี้ กยศ. รวมถึงจะมีการนำงบประมาณไปใช้จ่าย อุ้มนายทุน กับข้าราชการ จึงฝากให้ประชาชนช่วยกันติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างเข้มงวด