ขณะม.6 ต้องสอบแน่ หลังมีผู้ปกครองถามกันมาก รวมทั้งหลายเรื่องที่ห่วงใยเมื่อเปิดเทอม ทั้งการเดินทาง การนอน การรับประทานอาหาร แก้ปัญหาเด็กชายขอบ ด้วยการตั้งกล่องใบส่งงานระหว่างครู-นักเรียน ระบุโรงเรียนอินเตอร์และกวดวิชาที่เปิดเทอมก่อนตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทุกที่ไม่มีปัญหา นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า มีข้อห่วงใยในมาตรการป้องกันไวรัสโควิดในหลายเรื่อง อาทิ การเดินทางของนักเรียน สำหรับรถโรงเรียน ต้องนั่งตามมาตรการที่กำหนด เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากาก สำหรับเด็กเล็ก เป็นที่ห่วงใยว่าดูแลยาก ต้องให้ครู-ครูผู้ช่วยดูแล ทั้งการนอน ให้นอนห่างกัน 1.5 เมตร โดยให้เท้าชนกัน ไม่ให้ศีรษะใกล้กันมากที่สุด ขณะนอนไม่สวมหน้ากาก โดยต้องผ่านการคัดกรองอุณหภูมิมาก่อน รวมทั้งการรับประทานอาหาร โรงเรียนใหญ่ๆ ให้แบ่งเป็นผลัดรับประทานแล้วแต่โรงเรียนจะจัด อีกทั้งที่ผู้ปกครองถามกันมามาก เรื่องการสอบ ซึ่งศธ.จะประกาศภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ว่าจะต้องสอบหรือไม่ ส่วนม.6 ต้องสอบแน่นอน ส่วนชั้นอื่น ถ้าจัดสอบ จะปรับตัวชี้วัดให้ได้ในเกณฑ์ที่สามารถสอนได้ในปีโควิดนี้ เพื่อให้นักเรียนวัดผลได้อย่างยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หากมีกรณีมีการคัดกรองแล้วมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในเกณฑ์อาจจะติดเชื้อ จะคัดแยกออก และให้หยุด 14 วัน ระหว่างนั้น แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อตรวจสอบ ถ้าตรวจไม่พบเชื้อ ให้กลับมาเรียนต่อ ถ้าพบให้รร.ปิด 3 วัน ทำความสะอาด รวมทั้งตรวจสอบมีใครใกล้ชิดบ้าง ให้หยุด 14 วันเพื่อดูอาการ ซึ่งทางศบค.ได้ประสานศธ. ให้ใช้แอพฯ ไทยชนะด้วย ซึ่งมีทั้งที่ทำได้และทำไม่ได้ โดยเด็กโตทำได้ ส่วนเด็กเล็กต้องให้ครูจดบันทึก เพื่อให้ทางกระทรวงสาธารณสุขสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ สำหรับกรณีโรงเรียนที่อยู่ชายขอบ มีนักเรียนเพื่อนบ้านข้ามมาเรียนไปกลับทุกวัน และเด็กไทยที่พ่อแม่ไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ต้องไปกลับทุกวัน ขณะนี้ยังไม่สามารถข้ามมาเรียนได้ ตามประกาศศบค. อย่างไรก็ตาม หากจะเข้ามา จะต้องกักตัวก่อน 14 วัน และเข้ามาอยู่เลย และเพื่อให้รร.ชายขอบได้เรียนเต็มรูปแบบ ได้ประสานตม. ให้ครูนำใบงานมาส่งที่กล่อง และเด็กมารับใบงานแล้วนำการบ้านมาส่งที่กล่อง โดยไม่ต้องเจอกันโดย เรียนสอนผ่านทีวี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ประถม ส่วนโรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนกวดวิชากว่า 600 แห่งที่เปิดไปตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นั้นไม่พบปัญหาและไม่พบผู้ติดเชื้อ ถือว่ายังดูแลสถานการณ์ได้ดี