“STGT”กำหนดราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 34 บาท จากช่วงราคาเบื้องต้น 32-34 บาท/หุ้น เสนอขายวันที่ 23-25 มิ.ย.63 คาดนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 ก.ค.นี้ นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ ผ่านการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Bookbuilding) การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยบริษัทในครั้งนี้ได้มีการกำหนดราคาหุ้นสามัญที่จะเสนอขายที่ราคาหุ้นละ 34 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น ทั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันคุณภาพเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและแผนงานขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตที่มีความชัดเจน เชื่อว่าราคาดังกล่าวมีความสอดคล้องกับพื้นฐานและศักยภาพธุรกิจของ STGT โดยกำหนดเสนอขายหุ้น IPO แก่นักลงทุนในวันที่ 23-25 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 2 ก.ค.63 น.ส.จริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ STGT กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดย ณ วันที่ 31 มี.ค.63 มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 32,619 ล้านชิ้นต่อปี จากโรงงาน 3 แห่ง ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานีและตรัง และมีแผนงานขยายกำลังการผลิตติดตั้งอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็นมากกว่า 50,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี2567 ทั้งการขยายกำลังการผลิตในโรงงานเดิมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและตรัง รวมถึงก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดสงขลาและชุมพร จากนั้นจะขยายกำลังการผลิตติดตั้งเป็นมากกว่า 70,000 ล้านชิ้นภายในปี 2571 รวมถึงในระยะยาวจะขยายเป็นประมาณ 100,000 ล้านชิ้นในปี 2575 โดยบริษัทวางแผนขยายตลาดใหม่ๆในกลุ่มประเทศที่มีโอกาสเติบโตสูง อาทิ ทวีปเอเชียแปซิฟิก แอฟริกา อเมริกาใต้ ฯลฯ ซึ่งกำลังพัฒนาระบบสาธารณสุขและสุขอนามัย ดังนั้นอัตราการบริโภคถุงมือยางเฉลี่ยต่อคนต่อปีจึงมีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต โดย STGT จะใช้จุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งของโรงงานในไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ใช้เพาะปลูกยางพาราและโรงงานผลิตน้ำยางข้นของกลุ่ม STA ที่เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตและซัพพลายเชน