ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นเด็กชาย 6 ขวบ กลับจากแอฟริกาใต้ รวมยอดป่วยสะสม 3,148 ราย ปลื้ม! ไม่มีติดเชื้อในประเทศต่อเนื่อง 27 วัน "ศบค."คุยตัวแทน "ผับ-บาร์-คาราโอเกะ" ย้ำนายกฯเร่งแก้ความเดือดร้อนควบคู่ป้องกันรอบ 2 ขณะที่วงการอาหารโลกระส่ำ! "คนงาน"โรงฆ่าสัตว์เมืองเบียร์นับพันติดโควิด ขณะที่ยอดเหยื่อป่วยไวรัสมรณะทั่วโลกจ่อทะลุ 9 ล้านคน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันผ่านเฟซบุ๊กว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,148 ราย หายป่วยกลับบ้านรวม 3,018 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย และยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 72 ราย สำ หรับผู้ป่วยรายใหม่ พบว่ากลับมาจากประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เป็นเด็กชายไทยอายุ 6 ปี เดินทางพร้อมมารดาและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ส่วนผลตรวจของมารดายังไม่พบเชื้อ ที่ห้องประชุม 3 อาคารสำนักงาน ก.พ.เดิม ถนนพิษณุโลก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ มาร่วมหารือและรับฟังข้อเสนอในการวางแนวทางการผ่อนคลายมาตรการสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว หลังจากได้หารือกับกลุ่มนักดนตรีอิสระ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงไทยจากทั่วประเทศ มาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมยื่นข้อเสนอให้เป็นทางออก เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและพนักงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เป็นเวลา 5 ปี การขอยกเว้นภาษีสรรพสามิต 5 ปี หรือจนกว่าเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 จะฟื้นตัว นอกจากนี้ได้เสนอให้เยียวยาบุคลากรนักร้อง นักดนตรี ดีเจ พนักงานทุกตำแหน่งในสถานบันเทิง ยืดระยะเวลาสินเชื่อ อีก 3 เดือน ในการผ่อนบ้านและรถยนต์ สินเชื่อระยะสั้นส่วนบุคคล เป็นต้น โดย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯห่วงใยคือในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาตรการการเยียวยาได้ทำมา 3 เดือน เดือนเม.ย.-มิ.ย.63 แล้ว ดังนั้นในเดือน ก.ค.นี้จะเป็นช่วงพยายามผ่อนคลายให้ทุกสาขาอาชีพสามารถประกอบอาชีพของตนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะหากมีการระบาดรอบที่ 2 ก็คงยากจะแก้ไขกว่าครั้งแรก ดังนั้น นายกฯจึงห่วงใยและให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ การแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน และความปลอดภัยของประชาชน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นประเทศเยอรมนี เปิดเผยผลการตรวจโรคคนงานโรงฆ่าสัตว์ ในเมืองเรดาวีเดนบรูค ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ของประเทศ พบว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 1,029 ราย ส่งผลให้ทางการต้องมีคำสั่งให้ปิดโรงฆ่าสัตว์ข้างต้นเป็นการชั่วคราว และให้กักตัว สมาชิกในครอบครัวของคนงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เคยมีประวัติติดต่อสัมผัสกับคนงานเหล่านั้น รวมกว่า 6,500 รายเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ยังไม่พบสัญญาที่บ่งชี้ว่า มีการแพร่เชื้อจากโรงงานฆ่าสัตว์ไปยังชุมชนในพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อดังกล่าว ทำให้มีประชาชนจำนวนหนึ่ง ร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพิทักษ์สิทธิสัตว์ ออกมาชุมนุมประท้วง แสดงการต่อต้านต่อโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้ ขณะเดียวกัน ทางด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนสะสม 191,216 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิต 8,961 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 174,700 ราย ขณะที่ สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 8,915,863 ราย รักษาหาย 4,736,606 ราย เสียชีวิต 466,727 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือสหรัฐอเมริกา จำนวน 2,330,578 ราย รองลงมาคือบราซิล จำนวน 1,070,139 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 91 จำนวน 3,148 ราย