นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม คดีการเมือง ยกเว้นคดีทุจริต ปลดล็อกประเทศ แล้วดีใจ แต่ก็ดีใจได้เพียงข้ามคืน รุ่งขึ้นโฆษกรัฐบาลก็ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว การรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57 ข้ออ้างประการหนึ่งนอกเหนือจากการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองคือ การสร้างความปรองดองของคนในชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บัดนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง ควรแสดงภาวะผู้นำ เมื่อเรียนผูก ควรเรียนแก้ปัญหาของประเทศ ไหนๆ มีผู้จุดประเด็นข่าวการสร้างความปรองดองขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะที่ตน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มานาน การสร้างความปรองดองของคนในชาติ คือ หัวใจของการสร้างชาติ สร้างแผ่นดิน หลักคิดของตนในเรื่องนี้คือ ผู้นำประเทศควรน้อมนำคุณธรรมทางศาสนามาใช้ในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ โดยคุณธรรมทางศาสนาที่สำคัญนั้น ได้แก่ อภัยและเมตตา เพื่อให้อภัยและเมตตาแก่บุคคลที่ต้องคดีการเมือง และคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง ยกเว้น คดีทุจริต แต่กระบวนการกล่าวหาว่า ผู้ใดทุจริต กระบวนการนั้นก็ต้องยืนอยู่บนหลักนิติธรรม ถึงจะได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ ที่สำคัญได้รับการยอมรับจากผู้ถูกกล่าวหา นายชวลิตกล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตจากการระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนมหาศาลทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะจะมีคนตกงานนับสิบล้านคน ธุรกิจต่าง ๆ ปิดกิจการมากมาย ดังนั้นการสร้างความปรองดองของคนในชาติในห้วงเวลานี้จึงเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อระดมกำลังความคิด สติปัญญาจากทุกภาคส่วนมาช่วยกันแก้ปัญหาและพัฒนาชาติ บ้านเมือง ตนเห็นว่า มะม่วงสุกแล้ว ไม่อ่อน จนเปรี้ยว และถ้าปล่อยให้สุกเกินไป ก็จะเน่า