เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่ สน.โคกคราม พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สน.โคกคราม กล่าวถึงกรณีตำรวจสืบสวน บก.น.2 สนธิกำลังร่วมตำรวจ ดส.และ สืบโคกคราม เข้าจับกุมนักเที่ยวราตรีที่ผับเก่าชื่อ เฟค อิลลูชั่น ตั้งบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ว่า
ภายหลังตำรวจเข้าจับกุมกลุ่มนักเที่ยวในผับดังกล่าว รวมจำนวนทั้งหมด 111 คน คัดแยกเป็นหญิง 47 ชาย 64 คน มีเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ 4 คน ตรวจพบสารเสพติดผู้เสพ 24 คน เป็นชาย 12 คน และหญิง 12 คน ครอบครองเคตามีน 1 ราย และครอบครองอาวุธปืน 1 ราย พบเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้อง แต่ไม่มีใบอนุญาตพกพา
จากการสอบปากคำผู้จัดงาน คือนายไนซ์ ทราบว่าเจ้าตัวทำงานเกี่ยวกับโมเดลลิ่งและขายของออนไลน์ ได้จัดปาร์ตี้วันเกิด พร้อมชักชวนเพื่อนที่รู้จักผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ปรากฎว่าเพื่อนๆ ที่นายไนซ์รู้จักกลับชวนเพื่อนคนอื่นกันปากต่อปากมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยบางคนก็ไม่รู้จักกันเลย โดยตรเองได้จัดวันเกิดเป็นประจำทุกปี แต่ปีที่แล้วไปจัดขึ้นที่อื่น ส่วนสถานที่จัดงานล่าสุดนั้นอดีตเป็นสถานบันเทิงเก่าที่ปิดกิจการไปนานแล้ว แต่นายไนซ์ รู้จักกับผู้ที่เช่าสถานที่ จึงมาขอใช้เป็นที่จัดงานและไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้มาร่วมงาน แต่หมดค่าสุราไปประมาณ 3 หมื่นบาท
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) จะคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถบัสตำรวจ 2 คัน แยกไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนเยาวชน 4 ราย นำส่งศาลเด็กและเยาวชน เบื้องต้นผู้ต้องหา 109 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ครอบครองยาเสพติดกับอาวุธปืน 2 ราย จะส่งศาลอาญารัชดาดำเนินการฝากขังในข้อหาครอบครองและยาเสพติดประเภท 1(เคตามีน) และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบปากคำผู้จัดงาน คือนายไนซ์ ทราบว่าเจ้าตัวทำงานเกี่ยวกับโมเดลลิ่งและขายของออนไลน์ ได้จัดปาร์ตี้วันเกิด พร้อมชักชวนเพื่อนที่รู้จักผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ปรากฎว่าเพื่อนๆ ที่นายไนซ์รู้จักกลับชวนเพื่อนคนอื่นกันปากต่อปากมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยบางคนก็ไม่รู้จักกันเลย โดยตรเองได้จัดวันเกิดเป็นประจำทุกปี แต่ปีที่แล้วไปจัดขึ้นที่อื่น ส่วนสถานที่จัดงานล่าสุดนั้นอดีตเป็นสถานบันเทิงเก่าที่ปิดกิจการไปนานแล้ว แต่นายไนซ์ รู้จักกับผู้ที่เช่าสถานที่ จึงมาขอใช้เป็นที่จัดงานและไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้มาร่วมงาน แต่หมดค่าสุราไปประมาณ 3 หมื่นบาท
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) จะคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถบัสตำรวจ 2 คัน แยกไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนเยาวชน 4 ราย นำส่งศาลเด็กและเยาวชน เบื้องต้นผู้ต้องหา 109 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ครอบครองยาเสพติดกับอาวุธปืน 2 ราย จะส่งศาลอาญารัชดาดำเนินการฝากขังในข้อหาครอบครองและยาเสพติดประเภท 1(เคตามีน) และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต