วันนี้ (18 มิ.ย.) ริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี หมู่ 3 ตำบลเทวราช อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ได้มีกลุ่มเกษตรกรในพื้นอำเภอไชโย กว่า 100 คน มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือต่อหน้า ว่าที่ ร.ท.อรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอไชโย เรียกร้องขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ชลประทานให้ปล่อยน้ำมาทำนา หลังจากเกิดภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำทำนา ต้องหยุดมานานถึง 8 เดือนแล้ว ซึ่งในช่วงนี้ฝนตกอย่างต่อเนื่องแต่ทางชลประทานก็ไม่ปล่อยน้ำมาให้ทำนา จึงขอวอนชลประทานให้ปล่อยน้ำมาช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่อำเภอไชโยอย่างเร่งด่วน หากปล่อยน้ำมาทำนาล่าช้ากว่านี้จะเกิดผลเสียในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต หวั่นว่าจะเกิดผลกระทบน้ำท่วมขังในพื้นที่นา เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำในช่วงน้ำหลาก ด้าน นายสมนึก ดวงประทีป อายุ 49ปี กล่าวว่า ชาวนาในพื้นที่อำเภอไชโย ขาดน้ำทำนามานานถึง 8 เดือนแล้ว ที่ผ่านมา ทางราชการมีเงินช่วยเหลือแต่ยังไม่เพียงพอในการดำรงชีพ หากชลประทานปล่อยน้ำจะทำให้เกษตรกรได้ทำนาสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้มากขึ้น หากเป็นไปได้ขอร้องความเห็นใจให้ปล่อยน้ำมาในช่วงเดือนนี้ หากปล่อยน้ำมาล่าช้าก็จะกระทบการทำนา อย่างแน่นอน นายทรงยศ มะกูดทอง ประธานสภาเกษตรกรอำเภอไชโย กล่าวว่า ทุกวันนี้เกษตรกรต้องรอคอยการปล่อยน้ำมาให้ของทางชลประทาน แต่รอแล้วก็ไม่ปล่อยมาให้ แล้วจะให้เกษตรกรทำอย่างไร ที่มายื่นหนังสือให้นายอำเภอวันนี้ก็เพื่อให้ประสานทางชลประทานที่รับผิดชอบให้ด้วย หรือทางชลประทานจะปล่อยให้เกษตรกรต้องอดตายกัน เพราะที่ผ่านมาทางชลประทานขอร้องไม่ให้ทำนาเราก็ทำตาม แต่ถึงเวลานี้บอกให้รอน้ำจากฝนตกถึงทำนา ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับเกษตรกรที่สุด จึงฝากถึงทางชลประทานให้เห็นใจพี่น้องเกษตรกรด้วย ซึ่งตาอจากนี้ก็จะไปยื่นหนังสือต่อที่โครงการส่งน้ำชันสูตรและสำนักชลประทาน 12 ต่อไป ทางด้านว่าที่ร้อยโทอรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอไชโย เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองได้มารับหนังสือร้องเรียนจากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อำเภอไชโย จากตำบลเทวราช และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 60 คน เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่องของการขาดแคลนน้ำในการเกษตร ทั้งทำนา ทำสวน ทำไร่ ซึ่งตนเองได้รับหนังสือไว้ พร้อมกับชี้แจงให้เกษตรกรได้เข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ถึงอย่างไรก็ตามตนเองจะรีบประสานไปทางชลประทาน เพื่อให้เดินทางมาชี้แจงรายละเอียดกับเกษตรกรโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้บรรเทาความเดือดร้อนปัญหาไม่มีน้ำมาทำนา ทำสวน ทำไร่ ในพื้นที่อำเภอไชโยต่อไป.