ที่ปรึกษา รมว.สธ. เตือนประชาชนระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ในช่วงผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศชื้นเอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรค ขณะที่บุรีรัมย์พบป่วยไข้หวัดใหญ่ แล้ว 2,176 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง วันนี้ (18 มิ.ย..2563) นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้แก่ อสม.กลุ่มเสี่ยงจังหวัดบุรีรัมย์ ที่อาคารอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลตูมใหญ่ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสุขภาพ ในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศชื้น และเป็นช่วงที่มีอากาศแปรปรวน อาจทำให้ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ เกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ หรือโรคไข้หวัดใหญ่ ในช่วงนี้ ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นชื้น ซึ่งจะเอื้อต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ จึงขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน ให้ไปติดต่อขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง หรือ รพ.สต.ใกล้บ้านดังกล่าวได้ สำหรับอาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน ดังนั้น หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ ซึ่งมีผู้คนแออัด ควรมีการเฝ้าระวังการป่วย และคัดแยกผู้ป่วยออกจากคนที่ปกติ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย จึงได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และมีระบบการรักษาที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันโรคและภัยสุขภาพแก่ประชาชน ขณะที่ สถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 มิ.ย.2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 2,176 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต พบผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยพบเพศหญิง 1,140 ราย เพศชาย 1,036 ราย พบมากสุดในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนอายุ 0-4 ปี รองลงมาอายุ 5-9 ปี และอายุ 10-14 ปี ส่วนอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อ.ลำปลายมาศ, ละหานทราย, หนองกี่, พุทไธสง และ อ.ชำนิ ตามลำดับ