นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพผู้ให้บริการด้านประกันชีวิตที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ด้วยนโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)” และเพื่อเป็นการส่งมอบการบริการแบบครบวงจร และสร้างประสบการณ์การบริการที่ดีแก่ลูกค้าในกลุ่มผู้สูงวัย (Aging Society) บริษัทฯ จึงได้วางนโยบายในการขยายสาขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันเมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสาขาบริการลูกค้าในโรงพยาบาล ล่าสุดบริษัทฯ ได้ทำการเปิดให้บริการสาขาแห่งใหม่ “สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคาร ส.ธ. ชั้น 1 โดยเปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. เพื่อให้บริการลูกค้าในกลุ่มผู้สูงวัยและผู้ติดตามที่เข้าใช้บริการในโรงพยาบาล รวมถึงบุคคลทั่วไป โดยสาขาดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวก ทั้งด้านการชดใช้สินไหมทดแทนและการใช้สิทธิ์กู้ตามกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยสามารถรอรับค่าสินไหมทดแทนและเงินกู้ได้ทันทีภายใต้เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด รวมทั้งบริการให้คำปรึกษาด้านข้อมูลประกันชีวิต สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ โรคร้ายแรง การประกันอุบัติเหตุ การวางแผนวัยเกษียณ และการให้บริการหลังการขายในด้านอื่น ๆ เช่น การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อของลูกค้าและการใช้สิทธิตามกรมธรรม์ รวมถึงการแลกรับสิทธิ์ต่างๆ จากเมืองไทย สไมล์คลับ อีกด้วย “สิ่งที่บริษัทฯ มุ่งเน้นมาตลอดและถือว่าเป็นหัวใจหลักของเมืองไทยประกันชีวิตก็คือความพยายามในการคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับลูกค้า ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง และในภาวะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย หรือ Aging Society ซึ่งความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ จะอยู่ที่เรื่องของการรักษาพยาบาล ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้บริการ จึงเป็นที่มาของแผนการขยายสาขาเมืองไทยประกันชีวิตสู่โรงพยาบาลต่างๆ ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดสาขาใหม่ขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นสาขาลำดับที่ 172 ตั้งอยู่ ณ อาคาร ส.ธ. ชั้น 1 นับเป็นสาขาที่เปิดในโรงพยาบาลแห่งที่ 3 หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดให้บริการสาขาโรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแคไปแล้ว ซึ่งถือเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสาขาบริการลูกค้าในโรงพยาบาล รวมทั้งล่าสุดได้เปิดให้บริการ Fax-Claim 24 ชั่วโมง ที่โรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากที่สุดอีกด้วย โดยปัจจุบันเมืองไทยประกันชีวิตได้เปิดให้บริการ Fax-Claim 24 ชั่วโมง ที่โรงพยาบาลคู่สัญญาแล้วกว่า 280 แห่งทั่วประเทศ” นายสาระ กล่าว นายสาระ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ นอกจากนี้ยังได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยต้นปีที่ผ่านมาได้ทำการเปิดตัวบริการ “MTL Global Connect”* ซึ่งเป็นบริการที่มอบความอุ่นใจ แก่ลูกค้าที่มีประกันชีวิตและสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ เมื่อเจ็บป่วยต่างแดน สามารถเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ทั่วโลกตามสิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย รวมถึงให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น และการแนะนำโรงพยาบาลที่จะเข้ารับการรักษาในต่างแดน ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์การตอบสนองความต้องการอย่างครบวงจรของเมืองไทยประกันชีวิตได้เป็นอย่างดี