ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลใน จ.สตูล ที่ทรงคุณค่าอีกหนึ่งแห่งสะท้อนให้เห็นผ่านหมู่บ้านบนเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามหมู่บ้าน แม้จะอยู่ห่างฝั่งนั่งเรือไปไกลเพียง 30 นาที แต่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอความเรียบง่ายของหมู่บ้านชาวประมงที่รายล้อมไปด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ให้ชาวบ้านบนเกาะสาหร่ายได้หากินจากการออกเรือตกปลา วางอวน นอกจากจะออกเรือหาปลาจำหน่ายอาหารทะเลสดๆสร้างรายได้แล้ว ที่นี่ยังมีการถนอมอาหารทะเลมากมายส่งขายบนแผ่นดินใหญ่ด้วย โดยในช่วงฤดูกาลนี้ชาวบ้านจะออกรุนกุ้งเคยริมชายฝั่งมาทำกะปิ และกุ้งเคยตากแห้งสร้างรายได้อย่างงาม เนื่องจากที่เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่กะปิอร่อยกุ้งเคยอัดแน่นไม่เจือปนจนเป็นที่กล่าวขาน กุ้งเคยที่เกาะสาหร่ายมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ากุ้งเคยหลายเกาะ เนื่องด้วยสายพันธุ์และความอุดมสมบูรณ์ของเกาะที่นี่และกรรมวิธีการทำแบบโบราณตั้งแต่ขั้นตอนการตากแห้ง โดยผสมด้วยน้ำตาลและเกลือเพื่อให้กะปิอยู่ได้นานเป็นการถนอมอาหารอย่างง่ายโดยไม่ต้องใส่สารกันบูด จากนั้นมาตำให้ละเอียดด้วยครกไม้โบราณ และหมักเพียง 2 แดดก็สามารถนำมารับประทานได้เลยค่ะ นางวิไลวรรณ ภูมิฐาน อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 124 ม.1 บ้านตันหยงอุมาชัยพัฒนา ต.เกาะสาหร่าย บอกว่า กะปิต้องใส่เกลือให้เยอะน้ำตาลนิดหน่อยสามารถเก็บได้ข้ามปี กุ้งเคยสามารถหาได้เพียงแค่ 3-4 เดือนกรกฎาคมก็จะหมดแล้ว ส่วนใหญ่ได้กะปิมาก็ส่งขายให้ลูกค้าในพังงา และนำขึ้นไปวางขายบนฝั่งเองจะมีลูกค้าประจำและขาจรเข้ามาซื้อกันเยอะ คุณพี่วิไลวรรณ ไม่ได้มีแค่แผงกะปิ เท่านั้นยังมีอาหารทะเลที่ผ่านการถนอมอาหารด้วยการรมควัน อย่างปลากะเบนย่าง ปลาจ้องม้อง ฉลามขาว ก็นำไปวางขายกิโลกรัมละ 140 บาท หรือชิ้นละ 20-30 บาทได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบซื้อหากลับไปเป็นอาหารจานโปรดของที่บ้านได้เลย (093 791 9184) ส่วนกะปิของที่นี่ก็จะมีการปั้นเป็นลูกกลมๆ คล้ายดินระเบิด เป็นที่กล่าวขานว่าแหล่งกะปิดินระเบิด ขายกิโลกรัมละ 100 บาท หากบรรจุเป็นกระปุกละ 60 บาทครึ่งกิโลกรัม ก็ได้รับความนิยมอย่างดีเช่นกัน หมู่บ้านแห่งนี้จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสัมผัสธรรมชาติและวิถีชาวเล อีกทั้งยังได้ซื้อหาของทะเลสด ๆ จากแหล่งโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางคือมนต์เสน่ห์ ความเรียบง่ายที่ยั่งยืนน่าค้นหาของเกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล