จ.สุราษฎร์ธานี เปิดตลาดกินปลากะพง ภายใต้ "โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน" ปี 2563 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
เย็นวันนี้(16 มิ.ย.63) นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวงานของดีเมืองสุราษฎร์ เปิดตลาดกินปลากะพง ภายใต้ "โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน" ปี 2563 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชาสุราษฎร์ธานี เพื่อช่ยเหลือพี่น้องเกษรกรผู้เลี้ยงปลากะพง จากฟาร์มผู้เลี้ยงโดยตรงในจังหวัดสุราษฎร์นี ทั้งปลาสดและแปรูป ที่ได้รับผลกระทบกับสถานการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยจัดหาพื้นที่จัดจำหน่ยและโฆษณาประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังคัดสรรสินค้าชุมชนในจังหวัดสราษภูธนี เช่น อาหารสด อาทิ ปลากะพง กุ้ง หอยนางรม ปู ปลาเม็ง , อาหาาแปรรูป อาทิ ไข่เค็มไชยา น้ำพริก , ผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ทุเรียน เงาะโรงเรียน มังคุด สละ ผัก และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ อีกมากมาย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 แพร่กระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อพี่น้องประชาชนในทุกสาขาอาชีพ รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ได้ผลเป็นที่นพอใจ ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีการป้องกันได้ผลมากที่สุด
ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการควบคุมตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกัน จนปัจจุบันไม่มีผู้ติดเชื้อมานานกว่า 60 วัน แต่ผลจากการป้องกับควบคุมตามมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกสาขาอาชีพ กิจกรรมต่างๆ ถูกจำกัดและปิดตัวลง ทำให้ผลผลิต/สินค้า ไม่มีที่ระบาย ราคาตกต่ำ กลุ่มผู้ผลิตได้รับความเดือดร้อน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
โดยในวันนี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าชุมชน ภายใต้ "โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน" ปื 2563 เพื่อเป็นช่องทางการขับเคลื่อนทางการตลาดในการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันที่มีโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า อาหาร สินค้าเกษตร สินค้าอาหารสดของผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สร้างความกังวลและเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่องทางปกติ และราคาตกต่ำ โดยเฉพาะปัจจุบันปัญหาปลากะพงของผู้เลี้ยงปลากะพงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบ ผู้เลี้ยงปลากะพงไม่มีซ่องทางการจำหน่ายสินค้าในช่องทางปกติและราคาลดลงในวงกว้าง ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการจัดหาช่องทางการตลาด คือ ห้างแมคโครสุราษฎร์ธานี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎรนี เพื่อบรรเทาความเตือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
และนอกจากกิจกรรมช่วยเหลือกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงแล้ว จังหวัดยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมสำคัญเพื่อนำสินค้าผลิตภัณฑ์ของดีมาจำหน่าย เพื่อเพิ่มรายได้แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการชุมชนอีกด้วย โดยมีแผนการจัดกิจกรรม คือ ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชา สุราษฎร์ธานี จัดงาน 4 ช่วง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 กรกฎาคม 2563 ดังนี้ ช่วงที่ 1 งานสัปดาห์เกษตร 1 -15 มิถุนายน 2563 ช่วงที่ 2 งานของดีเมืองสุราษฎร์ธานี 16 - 31 มิถุนายน 2563 ช่วงที่ 3 งาน SMES Fair 1 - 15 กรกฎาคม 2563 และช่วงที่ 4 งานการท่องเที่ยวและโรงแรม 16 - 31 กรกฎาคม 2563 และร่วมกับห้างสหไทย จัดงาน "ตลาดชุมชนร่วมค้าประชารัฐ" ระหว่างวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2563
เย็นวันนี้(16 มิ.ย.63) นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวงานของดีเมืองสุราษฎร์ เปิดตลาดกินปลากะพง ภายใต้ "โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน" ปี 2563 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชาสุราษฎร์ธานี เพื่อช่ยเหลือพี่น้องเกษรกรผู้เลี้ยงปลากะพง จากฟาร์มผู้เลี้ยงโดยตรงในจังหวัดสุราษฎร์นี ทั้งปลาสดและแปรูป ที่ได้รับผลกระทบกับสถานการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยจัดหาพื้นที่จัดจำหน่ยและโฆษณาประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังคัดสรรสินค้าชุมชนในจังหวัดสราษภูธนี เช่น อาหารสด อาทิ ปลากะพง กุ้ง หอยนางรม ปู ปลาเม็ง , อาหาาแปรรูป อาทิ ไข่เค็มไชยา น้ำพริก , ผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ทุเรียน เงาะโรงเรียน มังคุด สละ ผัก และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ อีกมากมาย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 แพร่กระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อพี่น้องประชาชนในทุกสาขาอาชีพ รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ได้ผลเป็นที่นพอใจ ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีการป้องกันได้ผลมากที่สุด
ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการควบคุมตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกัน จนปัจจุบันไม่มีผู้ติดเชื้อมานานกว่า 60 วัน แต่ผลจากการป้องกับควบคุมตามมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกสาขาอาชีพ กิจกรรมต่างๆ ถูกจำกัดและปิดตัวลง ทำให้ผลผลิต/สินค้า ไม่มีที่ระบาย ราคาตกต่ำ กลุ่มผู้ผลิตได้รับความเดือดร้อน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
โดยในวันนี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าชุมชน ภายใต้ "โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน" ปื 2563 เพื่อเป็นช่องทางการขับเคลื่อนทางการตลาดในการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันที่มีโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า อาหาร สินค้าเกษตร สินค้าอาหารสดของผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สร้างความกังวลและเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่องทางปกติ และราคาตกต่ำ โดยเฉพาะปัจจุบันปัญหาปลากะพงของผู้เลี้ยงปลากะพงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบ ผู้เลี้ยงปลากะพงไม่มีซ่องทางการจำหน่ายสินค้าในช่องทางปกติและราคาลดลงในวงกว้าง ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการจัดหาช่องทางการตลาด คือ ห้างแมคโครสุราษฎร์ธานี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎรนี เพื่อบรรเทาความเตือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
และนอกจากกิจกรรมช่วยเหลือกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงแล้ว จังหวัดยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมสำคัญเพื่อนำสินค้าผลิตภัณฑ์ของดีมาจำหน่าย เพื่อเพิ่มรายได้แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการชุมชนอีกด้วย โดยมีแผนการจัดกิจกรรม คือ ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชา สุราษฎร์ธานี จัดงาน 4 ช่วง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 กรกฎาคม 2563 ดังนี้ ช่วงที่ 1 งานสัปดาห์เกษตร 1 -15 มิถุนายน 2563 ช่วงที่ 2 งานของดีเมืองสุราษฎร์ธานี 16 - 31 มิถุนายน 2563 ช่วงที่ 3 งาน SMES Fair 1 - 15 กรกฎาคม 2563 และช่วงที่ 4 งานการท่องเที่ยวและโรงแรม 16 - 31 กรกฎาคม 2563 และร่วมกับห้างสหไทย จัดงาน "ตลาดชุมชนร่วมค้าประชารัฐ" ระหว่างวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2563