ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งเริ่มมีน้ำไหลลงอ่างฯ บ้างแล้ว จากฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่มากนัก เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังติดตามและบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศว่า ปัจจุบัน (16 มิ.ย.63) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันประมาณ 30,846 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุฯรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 7,562 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 40,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 7,709 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 1,013 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 17,000 ล้าน ลบ.ม. สำหรับสถานการณ์ฝนที่กำลังตกอยู่ในหลายพื้นที่ขณะนี้ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำบ้างเล็กน้อย โดยเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ มีปริมานน้ำไหลลงอ่างฯรวมประมาณ 30 ล้าน ลบ.ม. แยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 8 แห่ง มีน้ำไหลลงอ่างฯรวม 8.46 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 12 แห่ง มีน้ำไหลลงอ่างฯรวม 5.49 ล้าน ลบ.ม. ภาคกลาง มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง มีน้ำไหลลงอ่างฯรวม 0.19 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันตก มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีน้ำไหลลงอ่างฯรวม 7.11 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 2.12 ล้าน ลบ.ม. และภาคใต้ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 6.77 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ จากอิทธิพลของพายุ “นูรี” ที่ส่งผลให้มีฝนฟาคะนองและฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ สภาพน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง สามารถรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาในระยะนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำหรือแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน อนึ่ง กรมชลประทาน ได้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ 1,935 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 527 ชุด รถบรรทุก 511 คัน กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ในเขตสำนักงานชลประทานต่างๆ รวมทั้งสิ้น 4,850 หน่วย เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยได้อย่างทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเรื่องน้ำ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วน 1460