ชาวบ้านสุดทน! ร้อง ป.ป.ช. สอบอดีตเจ้าอาวาสวัดดังและพวก รับสารภาพทุจริตร้ายแรง ผิดพระวินัย ผิดคดีอาญา ผ่านมา 7 ปี ยังห่มผ้าเหลืองหากิน ทำวัดดังแทบเป็นวัดร้าง สืบเนื่องจากปี พ. ศ. 2557 กำนันตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู และไวยาวัจกร ได้ร่วมกันตรวจสอบบัญชีเงินฝากของวัดดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดหนองบัวลำภู ปรากฏว่า เจ้าอาวาสกับพวกรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกันเบิกถอนเงินไปโดยทุจริต มีการเบิกจ่ายไปซื้อที่ดินมูลค่าหนึ่งล้านบาท แต่ใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของที่ดิน ทั้งยังมีการเบิกจ่ายเงินไปซื้อรถยนต์ อีกสามแสนห้าหมื่นบาท และใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรถยนต์ รวมทั้งการเก็บตู้รับบริจาคเงินของวัด ไปนับเองและใช้จ่ายส่วนตัว โดยไม่มีการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ทั้งยังมีคดีการจับพระลูกวัดเสพยาเสพติดภายในวัด การขายวัตถุมงคล รวมทั้งพฤติกรรมเจ้าอาวาสที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ขาดสมณสารูปที่สมกับเป็นพระภิกษุ อาทิ ไม่ออกรับบิณฑบาต ไม่รับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ฯลฯ ส่งผลให้วัดดังมีพระเพียงรูปเดียว คือ เจ้าอาวาส อาศัยอยู่กับแม่ชี 8 คน ทั้งที่เป็นวัดสายพระกรรมฐาน ​​ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดหนองบัวลำภู ติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลังจากที่มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ผลปรากฏว่า เจ้าอาวาสวัดดังกระทำการอันบกพร่องต่อหน้าที่เจ้าอาวาสหลายประการ และมีมติให้พักหน้าที่ เจ้าอาวาสวัดและให้เจ้าอาวาสวัดพร้อมผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่วัดภายใน 7วัน และแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู (ธรรมยุต) เป็นรักษาการเจัาอาวาสวัด ​​ประเด็นสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ผู้เรียกร้องความเป็นธรรมมานานนับปี และชาวพุทธผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาตั้งคำถาม คือ กรณีการทุจริต ประพฤติมิชอบของเจ้าอาวาส และพวกรวมถึงการไม่ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย เป็นสิ่งที่ได้มีการตรวจสอบชัดเจนและสรุปผลไปตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 เหตุใดสงฆ์ฝ่ายปกครองจึงปล่อยให้ขบวนการดังกล่าวยังคงหากิน และทำลายความศรัทธา มายาวนานหลายปี จากข้อมูลเอกสารที่ชาวบ้านได้พยายามร้องเรียนไปยังสงฆ์ฝ่ายปกครองทั้งเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู (ธรรมยุต) เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดดัง จากพฤติกรรมที่เอื้อต่อผู้กระทำความผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา และการนิ่งเฉยต่อการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องของชาวบ้าน เป็นเหตุให้คณะสงฆ์ได้มีการประชุมที่วัด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 โดยรักษาการเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต) กล่าวยอมรับว่า วัดดังในอดีตมีคุณงามความดีสูงเสียดฟ้า เป็นที่ศรัทธาอย่างสูง แต่ในปัจจุบัน ต่ำเรี่ยดิน ไม่หลงเหลือความศรัทธา และเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานีขอให้ชาวบ้านและคณะศิษย์หลวงปู่บุญเพ็งได้อดทน ขอเวลาให้คณะสงฆ์ได้ ‘ล้างวัดให้สะอาด’ แต่จนถึงปัจจุบัน ปรากฎว่า รักษาการเจ้าอาวาสไม่ได้ปฏิบัติตามมติสงฆ์แต่อย่างใด ไม่มีการดำเนินการกับอดีตเจ้าอาวาส พระและชีที่กระทำผิด ไม่มีการแจกแจงเงินในบัญชีวัดที่ปกปิดอย่างมีเงื่อนงำมาหลายปี จึงเป็นที่มาของการเรียกร้องความเป็นธรรม จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ดำเนินการสอบสวนอดีตเจ้าอาวาสวัดกับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมกรรมส่อไปในทางทุจริตและกระทำความผิดสำเร็จ และเชื่อว่ามีผู้ที่อยู่ในขบวนการทุจริตคอรัปชั่นประพฤติมิชอบเป็นจำนวนมาก จึงทำให้อดีตเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอย่างเร่งรัดรวดเร็ว และยังครองผ้าเหลืองอยู่โดยไม่สะทกสะท้าน ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาของชาวบ้าน และความสะเทือนใจของชาวพุทธทั่วประเทศ ทั้งนี้ กำนันตำบลโนนทัน และ อดีตไวยาวัจกร วัดดัง เป็นผู้แทนชาวบ้านตำบลโนนทัน เข้ายื่นเอกสารหลักฐานร้องเรียน ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ขอให้สอบสวนการทุจริตประพฤติมิชอบของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับกรณีวัดดัง ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนและอดีตเจ้าอาวาสได้รับสารภาพว่ากระทำผิดจริง แต่คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงปัจจุบัน การเรียกร้องความเป็นธรรมให้กลับมาสู่วัดดัง วัดที่มีคุณค่าทางจิตใจของชาวพุทธทั่วประเทศและทั่วโลก รวมทั้งกระบวนการบริหารของสงฆ์ฝ่ายปกครองในจังหวัดหนองบัวลำภู ในการดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม มีคุณธรรมจริยธรรม จึงเป็นสิ่งที่สังคมและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ กำลังให้ความสนใจอย่างยิ่ง และเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทสี่ ที่ต้องช่วยกันดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงสืบไป ตามพุทธดำรัสขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงฝากหน้าที่สำคัญนี้ให้ชาวพุทธทุกหมู่เหล่า ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน