นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น จากเดิมที่รัฐบาลประกาศว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ แต่พบว่าถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาใช้เป็นเหตุอ้าง ซึ่งเหตุผลประการหนึ่ง คือ ความไม่พร้อมในเรื่องของกฎระเบียบ ความไม่พร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และความไม่พร้อมของประชาชน รวมไปถึงงบประมาณที่จะใช้ในการจัดเลือกตั้งถูกใช้ไปกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 หมดแล้วนั้น กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนและส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นนั้น บัดนี้กำลังเป็นข้อพิสูจน์ว่า ไม่เป็นความจริงเพราะมีความพยายามของรัฐบาลที่จะประวิงเวลายื้ออำนาจของตนเอง ผ่านกลไกของท้องถิ่นที่รัฐบาลได้ครอบงำไว้เบ็ดเสร็จแล้วออกไปไม่มีกำหนด ทั้งๆที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.252 ระบุไว้ชัดว่า “สมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง” แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชอบอ้างว่ามาจากการเลือกตั้งนั้น ยังคงปล่อยให้ผู้บริหารท้องถิ่นครองอำนาจมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมากกว่า 7-8 ปี บางแห่งให้ข้าราชการประจำรักษาการในตำแหน่งผู้บริหารมามากกว่า 5-6 ปีแล้ว ทั้งนี้ตาม พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ม.142 ระบุไว้ชัดเจนว่า ภายหลังจากกฎหมายนี้ใช้บังคับ ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยให้ คสช.แจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) หากไม่มี คสช. ให้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการเลือกตั้งท้องถิ่นจึงไม่ใช่อำนาจของกระทรวงมหาดไทยที่จะกำหนดกรอบเวลาได้ หากแต่เป็นอำนาจของ กกต.โดยตรงและขณะนี้ กกต.ได้ออกระเบียบสำหรับใช้ในการเลือกตั้งเสร็จสิ้นมานานแล้ว แต่ กกต.กลับเงียบเฉยไม่ส่งสัญญานใด ๆ ไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความพร้อมในการควบคุม ดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมทั้งการมีงบประมาณสำรองไว้กว่า 800 ล้านบาทแล้วด้วย ดังนั้น สังคมไทยจึงเห็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ออกมาเฉไฉในการให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า ยังไม่พร้อมในเรื่องของกฎระเบียบ และความไม่พร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำคำร้องไปยื่นให้ กกต.ได้เร่งรีบส่งสัญญานหรือแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ตัดสินใจเพื่อจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศภายใน ต.ค.63 นี้ และหากยังมีการใช้เล่ห์ฉลร่วมกันประวิงเวลาไว้ สมาคมฯจะนำหลักฐานคำร้องนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลเอาผิด ครม.-กกต.ทั้งคณะฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรต่อไปแน่นอน โดยจะไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 17 มิ.ย.นี้เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์ราชการ อาคาร B ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด