ไทยติดเชื้อโควิด-19รายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยกลับจากสหรัฐฯ "กทม."ผ่อนปรน 11กิจการ-กิจกรรม รับคลายล็อกเฟส4 ย้ำสถานบันเทิง-สถานบริการยังไม่ให้เปิด ด้าน"บิ๊กตู่" ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมใจทำทั่วโลกชูไทยฟื้นตัวพิษโควิดเร็วเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ส่วน"จีน" ผวา"โควิด"อาละวาดรอบ 2 สั่งปิดตลาดใหญ่สุดในปักกิ่ง หลังพบผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนมากสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค.ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในสถานกักกันของรัฐ เป็นหญิง อายุ 25 ปี โดยเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,135 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ 198 ราย หายกลับบ้านได้แล้ว 2,987 ราย และยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 90 ราย ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 13/2563 เพื่อกำหนดรายละเอียดมาตรการควบคุมดูแลสถานที่ ตามที่ ศบค.มีมติให้ผ่อนปรนมาตร การเปิดสถานที่เพิ่มเติมระยะ 4 โดยมีการผ่อนปรนสถานที่เพิ่มเติม 11 สถานที่ เริ่มวันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป สำหรับสถานที่ที่ผ่อนปรนเพิ่มในระยะ 4 รวม 11 สถานที่ คือ1.อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่เป็นโรงเรียนนอกระบบประเภทกวดวิชา 2.โรงแรม โรงมหรสพ ห้องประชุม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือสถานที่อื่น 3.ร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป อนุญาตให้มีการจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ส่วนสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการประเภทผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการได้ 4.สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานที่สงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการให้แก่เด็กและผู้สูงอายุ ต้องมีมาตรการจำกัดจำนวนคนต่อพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 ตรม./คน และแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมไม่เกิน 5 คน / จำนวนผู้ดูแล 1 คน 5.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาอุทยาวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมการ 6.การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดิทัศน์ จำกัดจำนวนคน 150 คน ให้มีผู้ชมได้ไม่เกิน 50 คน 7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพสปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ไม่รวมกิจการอาบอบนวด โดยให้นวดรวม นวดใบหน้าได้ แต่ต้องจำกัดระยะเวลาใช้บริการ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร8.สวนสาธารณะ ลานกิจกรรม พื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง ให้ออกกำลังกายแบบกลุ่มได้ ไม่เกิน 50 คน ขณะออกกำลังกายต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากก่อนและหลังการออกกำลังกาย 9.สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก ยกเว้นเครื่องเล่นที่ติดตั้งชั่วคราวหนือเครื่องเล่นที่มีผิวสัมผัสมากซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดโรคในเด็ก เช่น บ้านบอล บ้านลม ยังไม่ให้เปิด ทุกแห่งต้องจำกัดจำนวนคน และเวลาให้บริการไม่เกิน 2 ชม.10. สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา หรือเพื่อการเรียนการสอนทุกประเภทกีฬา ให้เปิดดำเนินการได้ ยกเว้น สนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดแลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน โดยให้มีการแข่งขันได้ แต่ต้องไม่มีผู้ชมอยู่ในสนาม สามารถถ่ายทอดการแข่งขันได้ ในส่วนสระว่ายน้ำควบคุมให้ไม่เกิน 8 ตรม./คน11.ตู้เกมส์ เครื่องยอดเหรียญ ที่รับการอนุญาตตามกฏหมายสามารถให้มีการให้บริการได้ ส่วน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุดติดอันดับ 1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยสมาคม PEMANDU ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาเลเซีย (MOSTI) และกลุ่มบริษัทซันเวย์ ดำเนินการจัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ดีที่สุด สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการจีนโดยรัฐบาลปักกิ่ง มีคำสั่งให้ปิดตลาดซินฟาตี้ ซึ่งเป็นตลาดค้าผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งมีคำสั่งให้ปิดพื้นที่ใกล้เคียงรอบตลาดอีก 11 แห่ง เพื่อดำเนินการควบคุมโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่มีท่าทีการแพร่ระบาดรอบใหม่ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า การปิดตลาดซินฟาตี้ และบริเวณใกล้เคียงอีกนับสิบแห่งข้างต้น มีขึ้นภายหลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ จำนวนถึง 57 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 50 วัน หรือเกือบ 2 เดือน ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ในจีนแผ่นดินใหญ่ และยังนับเป็นการพบการแพร่ระบาดในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน หรือแบบคลัสเตอร์อีกด้วย ส่งผลให้ทางการต้องมีคำสั่งปิดพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า บรรดาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดฯ รอบใหม่นี้ ทั้งหมดเป็นในลักษณะไม่สำแดงอาการอีกต่างหากด้วย ภายหลังจากปิดพื้นที่ทางการจีนได้เข้าดำเนินการตรวจหาเชื้อโรคแก่บรรดาผู้เกี่ยวข้องกับตลาดดังกล่าว ทั้งหมด โดยมีรายงานว่า มีผู้ถูกตรวจโรคไปแล้วจำนวนราวหมื่นคน ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 7,872,620 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 432,475 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 4,042,463 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 2,142,224 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 117,527 ราย