ไล่ล่าเก๋งขนใบกระท่อมซิ่งหนีข้ามอำเภอจนมุมซอยตันทิ้งรถหลบหนี

เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไล่ล่ารถเก๋งขนใบกระท่อมซิ่งหนีกว่า 20 กิโลเมตร จาก อ.สะเดา ถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และมาจนมุมในซอยตันคนขับทิ้งรถหลบหนี พบใบกระท่อมในรถ 15 ถุง หนัก 150 กิโลกรัม และตรวจสอบผู้ครอบครองรถเรียกตัวมาสอบสวนว่า เกี่ยวข้องหรือไม่ วันที่ 14 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพล สำนักงานตำรวจแห่ง ได้ติดตามไล่ล่ารถเก๋งขนใบกระท่อม ซึ่งเป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า สีเขียว หมายเลขทะเบียน กง-4308 สงขลา หลังจากที่พบรถคันนี้ ซึ่งมีพฤติกรรมต้องสงสัยขับซิ่งปาดซ้ายปาดขวา และฝ่าไฟแดงบนถนนกาญจนวานิช พื้นที่ ต.คลองแงะ อ.สะเดา เจ้าหน้าจึงขับรถตาม เพื่อที่จะขอตรวจค้น แต่ไม่ยอมหยุด และขับซิ่งหนี จึงเกิดการไล่ล่ากันประมาณ 20 กิโลเมตร โดยรถเก๋งคันนี้ได้เลี้ยวเข้าไปจนมุมในซอยเหมตระกูลอนุสรณ์ พื้นที่ หมู่ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ และคนขับทิ้งรถหลบหนีไป และได้มีการประสานตำรวจสายตรวจเข้าร่วมตรวจค้นภายในรถ ปรากฏว่า พบใบกระท่อมอยู่ภายในรถเก๋งคันนี้ 15 ถุง อัดมาท้ายรถ 11 ถุง และที่เบาะหลังอีก 4 ถุง น้ำหนักรวม 150 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดเอาไว้ โดยใบกระท่อมทั้งหมดคาดว่า ขนมาจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อมาส่งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ แต่ระหว่างทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ชุดปรามปรามผู้มีอิทธิพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเกิดการไล่ล่ากันขึ้นสุดท้ายหนีไม่รอด โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบผู้ครอบครองรถคันนี้ว่า มีใครเป็นเจ้าของ และจะเรียกตัวมาสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าใบกระท่อมหรือไม่ ทั้งนี้สถานการณ์ใบกระท่อมขณะนี้ยังคงมีความพยายามลักลอบขนข้ามแดนจากฝั่งมาเลเซียเข้ามาอย่างต่อเนื่องทางช่องทางธรรมชาติ โดยราคาขายในตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 500-800 บาท