วันที่ 12 มิ.ย.63 นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อดีตอธิบดีกรมอนามัย และอดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 63 ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่า โรคโควิด-19 เบาบางลง และกำลังเปลี่ยนผ่านจากระยะ 3 เข้าสู่ระยะ 4 จึงขออนุญาตลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กส่วน นพ.วชิระ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า ได้ขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว เพื่อมาทำหน้าที่พลเมืองตื่นรู้ ป้องกันผลกระทบต่อคนที่เรารัก โดยระบุว่ารักและเคารพอาจารย์หม่อม (นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์) มาตั้งแต่รับราชการใหม่ๆ ส่วนท่านรัฐมนตรีหนู (นายอนุทิ ชาญวีรกูล) เป็นคนที่น่ารักน่านับถือ รู้จักตั้งแต่เป็น รมช.สธ. จะรักและนับถือตลอดไป นพ.วชิระ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิดเริ่มเบาบาง และต้องการทำหน้าที่พลเมืองตื่นรู้ได้เต็มที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับงานในตำแหน่งที่ปรึกษาที่ รมว.สธ.มอบหมาย จึงขอลาออก ซึ่งท่านอนุทิน รับทราบและเข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งรู้จักมามากกว่า 10 ปี ส่วนตัวจะนับถือตลอดไป ขณะที่ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.สธ. ตนก็รักและเคารพมาตั้งแต่รับราชการใหม่ๆ มากกว่า 30 ปี ได้เรียนท่านแล้วเช่นกัน การลาออกจึงเป็นทางเลือกที่ดี เมื่อถามว่า มีคนตั้งคำถามว่าการออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณี นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น และต้องการให้ตรวจสอบรักษาการ ผอ.รพ.ขอนแก่น เพราะเคยเป็นคู่กรณีสมัยอดีต นพ.วชิระกล่าวว่า หากมองแบบนั้น ตนคงออกมาพูดนานแล้ว แต่ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ตนเอง แต่สังคมหรือแม้แต่สื่อมวลชนหลายสำนักก็นำเสนอข่าวนี้ ตนแค่รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรม เพราะระบบเรื่องเงินบริจาคต้องดูว่า ก่อประโยชน์ภาพรวมอย่างไร หรือมีการนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งตรงนี้เหตุผลของการย้ายต้องชัดเจน เพราะในคำสั่งเขียนว่า มีผู้กล่าวหาฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นข้อกล่าวหาใหญ่ รายละเอียดเหตุผลต้องชัดว่า มีการทำผิดข้อหาอะไรที่ว่ามีมูลจนต้องเขียนในคำสั่งเช่นนั้น และนำไปสู่การสอบสวนวินัยร้ายแรง แม้จะบอกว่า ยังไม่ได้สรุป แต่คำสั่งเขียนเช่นนั้น ก็เหมือนตีตราข้าราชการไปแล้ว จึงอยากขอความเป็นธรรมเรื่องที่เกิดขึ้น