เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเด็นการแชร์ข้อมูลที่เป็นกระแสข่าวในโลกออนไลน์ สาเหตุเกิดจากการที่ผู้กระทำความผิดได้โพสต์ถึงกรณีที่ตนเองถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปพบและเสียค่าปรับ50,000 บาท จึงได้มีการโพสต์เรื่องราวต่างๆ เพื่อให้ประชาชนลงชื่อยกเลิกมาตรา 32 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นมาตราที่บัญญัติขึ้นมาเพื่อควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า จากกระแสข่าวที่มีการตีความมาตราดังกล่าว เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ซึ่งในมาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 ส่วนด้วยกัน ดังนี้ 1.ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า เช่น การโพสต์ภาพเหล้าเบียร์พร้อมข้อความต่างๆ เพราะต้องการที่จะขายสินค้าเหล้าเบียร์นั้นๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ 2.ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับมีข้อความหรือพฤติการณ์อวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ดังนั้น การที่ประชาชนโพสต์ภาพขวดเหล้าเบียร์ หรือแก้วเบียร์ที่มีโลโก้เบียร์ จึงยังไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายนี้ จากกระแสข่าวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา มีดารา เน็ตไอดอล หรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงเข้ามาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะมีการโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบุคคลที่มีชื่อเสียงกับบุคคลทั่วไปมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยที่ไม่มีข้อความเชิญชวนอวดอ้างชักจูงใจก็จะไม่เป็นความผิด แต่ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ทำให้คนหันมาสนใจสินค้ามีผลเป็นการโน้มน้าวหรือชักจูงใจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม จึงไม่สามารถทำได้ นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้กระทำความผิดในกรณีนี้มาโดยตลอด แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร้านค้าต่างๆ ถูกสั่งปิดและห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงหันมาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากข้อมูลช่วงมี.ค.-พ.ค.63 เรื่องร้องเรียนผ่านระบบเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (TAS) มีถึง 174 เรื่อง จึงได้ออกหนังสือเรียกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ถ้อยคำกับพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นข้อมูลและเป็นการเปิดโอกาสให้เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง หากไม่เกี่ยวข้องก็สามารถแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมแสดงพยานหลักฐานได้ ซึ่งโทษความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นโทษตามกฎหมาย คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าเป็นการโฆษณาของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจะปรับ 500,000 บาท โดยมีการกำหนดอัตราการเปรียบเทียบปรับไว้ด้วย ซึ่งการปรับตามกฎหมายนี้ไม่มีการผ่อนจ่ายเป็นงวดตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ ปัจจุบันมีระบบเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (TAS) โดยสามารถเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ https://tas.go.th ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถร้องเรียนผ่านระบบดังกล่าวได้ และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และสุรา โทร. 0-2590-3342