ผู้บริหารการบินไทยทำความเข้าใจพนักงาน ร่วมสู้ฟื้นฟูกิจการ ยันยังไม่มีการปลดคน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ปีทำแผนกำหนดโครงสร้างบริษัทที่ชัดเจน มั่นใจกลับมาแข็งแกร่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการ คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย เชิญพนักงานร่วมประชุมและรับฟังการถ่ายทอดสด ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ห้องออดิทอเรียม สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีฯ โดยการประชุมดังกล่าวไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังหรือถ่ายภาพ สำหรับสาระสำคัญเป็นการแจ้งแนวทางการปฏิบัติของบริษัทและพนักงานจนกว่าจะถึงวันที่ 17 ส.ค.63 ซึ่งเป็นวันที่ศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวนครั้งแรกก่อนที่จะมีคำสั่งต่อไปว่า จะสั่งให้การบินไทยเข้าแผนฟื้นฟูเมื่อใด รวมทั้งมีการแต่งตั้งผู้บริหารแผนใครบ้าง โดยมีการแจ้งให้พนักงานทราบว่าขณะนี้มีการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ ทั้งผู้ให้เช่าเครื่องบิน เงินกู้ การค้า โดยฝ่ายบริหารย้ำให้พนักงานต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกด้านต่อไป โดยแนวทางการจัดทำแผนฟื้นฟูนั้นหลักๆต้องทำให้เจ้าหนี้และศาล เชื่อว่ากิจการของการบินไทยสามารถไปต่อได้ โดยประเด็นที่เกี่ยวข้องปัญหาการมีเครื่องบินหลายแบบ เครื่องยนต์หลายประเภท เครื่องเก่าๆต้องมารีวิวว่า จำนวนเครื่องควรจะมีเหลือเท่าไหร่ เพื่อเหมาะกับการดำเนินงานในอนาคตตามแผน เส้นทางการบิน ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก พอหมดการระบาด Covid-19 แล้วยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าธุรกิจการบินจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องจะกลับมาทำการบินนั้น ได้สั่งการให้ฝูงบิน standby และพร้อมบิน แต่ต้องดูสถานการณ์รวมๆ ทั้งต้นทางและปลายทาง แต่คาดว่าต้นทางการบินคือ ประเทศไทยอาจจะเปิดบินตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ แต่ต้องไปดูประเทศปลายทางอีกว่ามีประเทศใดเปิดบ้าง และมีกักตัว 14 วันไหม คนจะกลับมาเริ่มเดินทางหรือไม่ โดยสรุปยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องการกลับมาบินต้องรอข่าวการประกาศแต่ละพื้นที่อีกครั้ง แต่ในส่วนของโครงสร้างฝูงบินของการบินไทย เครื่องบินน้อยลง และเส้นทางบินจะน้อยลงแน่นอน ขณะที่เรื่องประเด็นการขายตั๋ว ฝ่ายบริหารยืนยันว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป จะมีการเตรียมนำระบบขายตั๋วใหม่ เน้นราคาเดียว เพิ่มสัดส่วนการขายผ่าน online website เดิมในอดีตที่มีการขายผ่านเอเย่นต์เป็นหลัก สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานะของพนักงานทุกคน สถานการณ์ปัจจุบันพนักงานทุกคนยังอยู่ในสถานะพนักงานของบริษัท และช่วงนี้ยังไม่มีการเอาคนออกแน่นอน ต้องรอรายละเอียดแผนฟื้นฟูที่ชัดเจน เมื่อแผนเสร็จชัดเจนแล้วถึงจะมาดูเรื่องโครงสร้างองค์กร คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี ถึงจะมีความชัดเจน แล้วจึงจะมีมาตรการมาแจ้งอีกที โดยการปรับโครงสร้างและการมีทิศทางของธุรกิจที่แน่นอน และอาจจะไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานออกเยอะก็ได้ แต่อาจย้ายคนแบบหมุนเวียนไปเทรนนิ่ง เพื่อไปช่วยงานในหน่วยงานที่ทำรายได้ได้ดี และอาจจะขาดกำลังคน โดยปัจจุบันไม่อยากให้กังวล อยากให้ร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหากันไปเรื่อยๆ ส่วนการลดเงินเดือนโดยความสมัครใจ ฝ่ายบริหารแจ้งว่าเป็นการขอความร่วมมือจากบริษัทตามอัตราที่มีการประกาศ เป็นการขอความร่วมมือแบบสมัครใจ เนื่องจากกระแสเงินสด การทำแบบนี้ เพื่อพยายามรักษา cash flow ไว้ให้อยู่ได้หลายๆเดือน เพราะตอนนี้บริษัทจะไปกู้ที่ใดคงไม่ได้ ส่วนคำถามว่า ถ้าพนักงานไม่ลดเงินเดือนจะอยู่ได้นานแค่ไหน ฝ่ายบริหารแจ้งว่าการลดเงินเดือน 3 เดือนจะยืดให้มีสภาพคล่องจ่ายเงินเดือนได้อีก 1 เดือน หรือเงินเดือน 1 เดือนจะลดเงินไปได้ประมาณ 300 ล้าน