วันที่ 10 มิ.ย.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. มีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการหรือคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 63 แล้ว นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สอดรับนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส./ผอ.ศปม. ตาม ประกาศ ข้อกำหนด ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 การป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การปราบปรามอาชญากรรมที่ฉกฉวยโอกาสในการซ้ำเติมประชาชนในห้วงที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลและกำชับการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ ตามที่ได้มีมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 3 ให้กิจกรรม กิจการที่มี ความเสี่ยงปานกลางถึงสูงกลับมาเปิดให้บริการได้ ตลอดจนขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าถึง 21.00 น. ปรับลดเวลาเคอร์ฟิว ตั้งแต่ 23.00-03.00 น. และอนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้หากมีความจำเป็น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ฝากขอบคุณประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่เข้าใจสถานการณ์และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตามประกาศ ข้อกำหนด ต่างๆ ตั้งแต่ห้วงแรกที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค อีกทั้งขอความร่วมมือและฝากเตือนไปยังประชาชนบางกลุ่มที่อาจจะมีการรวมตัว หรือ การชุมนุม เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 และเสี่ยงต่อการกระทำความผิดตาม ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร และ ส่วนภูมิภาค ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง แออัด หรือการทำกิจกรรม การมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และตามประกาศของ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เมื่อ 3 เม.ย.63 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค หากฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือ เบาะแส สามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 , 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง