"เติมปันสุข สู่ความสุข" นิพนธ์ เติมเครื่องอุปโภค บริโภค ตู้ปันสุข ร่วมกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” ชี้ สังคมไทยเอื้ออาทร ไม่ทิ้งกันยามวิกฤต ยังเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสัมคม เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ณ บริเวณข้างรั้วกระทรวงมหาดไทยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมในกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มาเติมเต็มที่ตู้ปันสุข เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลายความทุกข์ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน  โดยมี นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมผู้บริหารกรมการปกครอง รับมอบสิ่งของ นายนิพนธ์ กล่าวว่า วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันฝ่าฟันปัญหาโควิด-19 ไปด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานประเทศไทยจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ กิจกรรมตู้ปันสุขนี้เป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเอื้ออาทรของสังคมไทย สิ่งของที่นำไปใส่ไว้ในตู้ปันสุขจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนได้มาหยิบไปใช้ หยิบไปรับประทานได้ฟรี โดยให้หยิบแต่พอประมาณ ต้องรู้จักแบ่งปันให้คนข้างหลังด้วย โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีทุนทรัพย์จสามารถแสดงน้ำใจบริจาคสิ่งของช่วยเหลือมาเติมใน ” ตู้ปันสุข ” ได้ตลอดเวลา ซึ่งครั้งนี้ได้นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ น้ำตาลทราย ปลากระป่อง น้ำดื่ม นม ยารักษาโรค และ สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพมาใส่ไว้เป็นการนำร่อง เพื่อเป็นสื่อกลางส่งต่อความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยกำหนดให้ประชาชนหยิบของในตู้ปันสุขได้เพียง 3 ชิ้น ต่อ 1 คน เพื่อให้สามารถแบ่งปันแก่ผู้ที่เดือดร้อน ได้อย่างทั่วถึง และหวังว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปด้วยกัน" สำหรับกิจกรรมนี้ กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และ แบ่งปันความสุข ระหว่างผู้ให้และผู้รับ ตามปรัชญากระทรวงมหาดไทยที่ว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงผู้ยากไร้ โดยขอให้ “หยิบแต่พอดี ถ้ามีก็แบ่งปัน” ไว้เผื่อแผ่คนอื่นๆอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จัดระเบียบผู้ที่มาเลือกหยิบของจาก "ตู้ปันสุข" ให้เป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้าผ้าทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด