มหาวิทยาลัยในเอเชียทำสถิติยอดเยี่ยมติด 100 อันดับแรกของโลกถึง 26 แห่ง ขณะ Massachusetts ของสหรัฐฯยังครองแชมป์โลกนานที่สุด 9 ปีติด QS Quacquarelli Symonds สถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงอุดมศึกษาระดับโลก ได้ประกาศผลจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก QS World University Rankings ฉบับที่ 17 ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเปรียบเทียบศักยภาพของมหาวิทยาลัยที่มีผู้นำไปเผยแพร่และค้นหาข้อมูลมากที่สุดในโลก [1] โดยผลการจัดอันดับพบว่า มหาวิทยาลัยในเอเชียติด 100 อันดับแรกของโลกถึง 26 แห่ง ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ Massachusetts Institute of Technology ครองตำแหน่งมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกเหนียวแน่นเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน ทำสถิติติดต่อกันนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ มหาวิทยาลัย 3 อันดับแรกของโลกยังคงเป็นของสหรัฐ โดยถัดจาก MIT ได้แก่ Stanford University (อันดับสอง) และ Harvard University (อันดับสาม) มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของอังกฤษได้แก่ University of Oxford ซึ่งตกไปเป็นอันดับห้าของโลก ส่วนมหาวิทยาลัยคู่แข่งอย่าง University of Cambridge ยังคงอยู่ที่อันดับเจ็ด สหรัฐฯมีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 153 แห่ง ในจำนวนนี้มีถึง 112 แห่งที่มีอันดับลดลง และมีเพียง 34 แห่งที่อันดับสูงขึ้น เนื่องจากมีชื่อเสียงทางวิชาการและผลกระทบจากการวิจัยลดลงตามเกณฑ์วัดของ QS มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของยุโรปภาคพื้นทวีปคือ ETH Zurich (อันดับหกของโลก ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว) มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเอเชียคือ National University of Singapore (อันดับที่ 11 ของโลก) มหาวิทยาลัย Tsinghua University ครองอันดับสูงสุดเท่าที่เคยติดอันดับมา (อันดับที่ 15) มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในลาตินอเมริกาคือ Universidad de Buenos Aires (อันดับที่ 66 ของโลก ขึ้นมา 8 อันดับ) ขณะที่ Universidad Nacional Aut?noma de Mexico (อันดับที่ 100) เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเม็กซิโกที่ติด 100 อันดับแรก ดูระเบียบวิธีวิจัยในการจัดอันดับได้ที่: https://www.topuniversities.com/qs-world-university-rankings/methodology รับชมผลการจัดอันดับทั้งหมดได้ที่ www.TopUniversities.com [1] ข้อความ ‘ค้นหาข้อมูลมากที่สุด’ อ้างอิงจากแพลตฟอร์มตรวจสอบติดตามอิสระ รวมถึง Google Analytics, SimilarWeb, Meltwater และ Alexa