"สมพงษ์-หญิงหน่อย"แถลงจูบปากปัดข่าวขัดแย้ง ลั่นทำงานสอดคล้องกลมเกลียว โยนรธน.ต้นเหตุสมาชิกออกไปตั้งพรรค ด้าน "สุทิน"เชื่อยังทำงานร่วมกัน ขณะที่ "ชูวิทย์"ยันส.ส.อีสานยังปึ้กกอดคอกับพท.ต่อ วันที่ 10 มิ.ย.63 เมื่อเวลา 10 .00 น.ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ว่า ที่ผ่านมาตนไม่ค่อยได้ออกข่าว และการทำงานก็ได้แบ่งกันชัดเจน ดังนั้นยืนยันว่าทำงานกับคุณหญิงสุดารัตน์สอดคล้อง กลมเกลียวกัน ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด สามารถสอบถามจากส.ส. ทุกคนได้ ส่วนการทำงานย่อมมีติดขัดกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สามารถแก้ไขได้ขอยืนยันว่าตนทำงานในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ประสานงานกับประธานยุทธศาสตร์มาโดยตลอดและไม่มีอุปสรรค ไม่ได้ทั้งสิ้น ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมีการทำงานอย่างกลมเกลียวกัน มีการหารือกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยแข็งแรง และสามารถเป็นที่พึ่งหวังในยามที่ประชาชนกำลังท้อแท้ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลาทะเลาะกันเพราะทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมาจากความไว้วางใจของประชาชนและคาดหวังกับพรรคเพื่อไทยในการช่วยเป็นปากเสียงแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ออกมา 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเราไม่สบายใจกับข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งแหล่งข่าวไม่ทราบว่าเป็นใครที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยและประชาชนไม่เป็นความจริง "อาจจะเชื่อมโยงกับสมาชิกที่ออกไปตั้งพรรคก็เป็นเรื่องปกติ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดช่องไว้ และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้นนักการเมืองที่ต้องการเข้าสภาจึงต้องทำพรรคการเมือง ซึ่งต่างเป็นเรื่องดีทั้งนั้นเพราะยังอยู่กับซีกประชาธิปไตย เป็นความจำเป็นจากรัฐธรรมนูญและกติกาที่บิดเบี้ยวและเข้าใจกันดี" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า การทำงานกับส.ส. ที่ผ่านมาทุกคนได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีปัญหา ข่าวที่ปรากฎออกมาไม่เป็นความจริง หากบุคคลที่มีเจตนาทำให้เกิดเรื่องก็ขอว่าอย่าทำอย่างนั้นอีกส่วนการตั้งพรรคเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่การไปตั้งพรรคนั้นมีการเสนอข่าวที่ทำให้พรรคเดิมเสียหาย ตนยังมั่นใจว่าสมาชิกที่ไปก็ยังทำงานร่วมกันในอนาคตกันอีกยาว เพราะยังอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน แต่การสื่อสารผิดพลาด ทำให้ส.ส.โดยเฉพาะส.ส.ภาคอีสานได้รับความทุกข์มากที่สุด "ยืนยันพรรคยังมีความเป็นเอกภาพของพรรคได้ดี เช่น การอภิปรายเงินกู้ ซึ่งเราภูมิใจว่าทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทำงานได้เป็นอย่างดี ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นอย่างนี้ เชื่อว่ายังอยู่ด้วยกันทั้งหมด แต่เมื่อรัฐธรรมนูญไม่มีทางแก้ได้จึงต้องมีการหาที่ยืน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังจับมือทำงานได้กันเหมือนเดิม" นายสุทิน กล่าว ขณะที่ นายชูวิทย์ พิทักษพรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และ ประธานส.ส.ภาคอีสาน กล่าวว่า ส.ส.อีสานมีความเหนียวแน่นและกลมเกลียวที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาถึงพรรคเพื่อไทย