ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ถึง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีสาระสำคัญว่า ตามที่ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ อสมท) ได้มอบหมายให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เข้าชี้แจงให้ข้อมูลต่อที่ประชุม กสทช. เรื่องการพิจารณากำหนดสัดส่วน ค่าตอบแทนของผู้ถือครองคลื่นความถี่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนคลื่นความถี่ ย่าน 2500–2690 เมกะเฮิรตซ์ ในการประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 รายละเอียดดังแจ้งแล้วโดย กสทช.ขอให้ยืนยันเกี่ยวกับผู้มีอำนาจตามกฎหมายของ บมจ.อสมท ที่จะสามารถกำหนดสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ ที่บมจ.อสมท เป็นจำนวนเท่าใดนั้น บมจ.อสมท โดยได้รับมอบอำนาจจากประธานกรรมการ บมจ.อสมท ขอเรียนดังนี้1.กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นผู้มีอำนาจ ตามกฎหมายของ บมจ.อสมท ในการพิจารณากำหนดสัดส่วน การชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ มิใช่อำนาจของคณะกรรมการบริหาร บมจ. อสมท 2. สำหรับจำนวนสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทน ในการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ระหว่าง บมจ. อสมท กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ขอให้มีการพิจารณาแบ่งค่าตอบแทนดังกล่าวในจำนวนเท่าๆ กันทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะทำให้ บมจ.อสมท ไม่เป็นการเสียเปรียบแต่อย่างใด ต่อเรื่องนี้ นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว สหภาพฯ อสมท คิดว่าเป็นการมอบอำนาจโดยมิชอบ เพราะประธานบอร์ดไม่น่ามีอำนาจที่จะมอบให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปดำเนินการอะไรที่มีผลประโยชน์มากขนาดนี้ ควรจะมากไปกว่านั้น ที่ประชุมบอร์ดอาจจะไม่ได้ข้อยุติด้วยซ้ำ ควรจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพราะมูลค่าของเงินเยียวยาไม่รู้จำนวนเท่าไร อาจมีผลต่อนัยสำคัญของผู้ประกอบการ อสมท ดังนั้นเรื่องนี้ใครคนใดคนหนึ่ง จะมอบอำนาจให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ต้องเป็นในรูปคณะกรรมการ และอาจจะต้องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น ประเด็นนี้อยากถามสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ว่ามองอย่างไร ที่มีการตัดสินใจแบบนี้ เป็นการรักษาผลประโยชน์ชาติหรือไม่ และฝากไปถึง กสทช.ว่า ถ้ายึดตามหนังสือนั้นและถ้าพิสูจน์ได้ในภายหลังว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง โดย กสทช. แบ่งเงินชดเชยคนละครึ่งตามที่นายเขมทัตต์ เสนอ ทาง กสทช. ต้องร่วมแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะไม่ตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือก่อน