นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ครม.รับทราบอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยในโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี2562/2563 ภายใต้กรอบวงเงิน จำนวน 10,000 ล้านบาท หลังจากที่กระทรวงการคลังเห็นชอบอัตราการจ่ายเงินตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแล้ว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีอยู่ในระบบกว่า 200,000 ราย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังได้รับผลกระทบโควิด-19 อีกด้วย โดยโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัย การผลิตดังกล่าว แบ่งเป็นวงเงิน 6,500 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยเข้าโรงงานทุกราย ที่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 และได้ทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบอ้อย ในอัตราตันละไม่เกิน 85 บาท รายละไม่เกิน 5,000 ตัน และวงเงิน 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงานทุกตันอ้อย ในอัตราตันละไม่เกิน 92 บาท โดยมีปริมาณอ้อยสดที่เข้าหีบในฤดูการผลิต 2562/2563 ทั้งหมด 37.71 ล้านตัน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 74.89 ล้านตัน ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรชาวไร่อ้อยคู่สัญญาที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตฤดูการผลิตปี 2562/2563 ไปแล้ว จำนวน 182,598 ราย คิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือฯ คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตามนโยบายในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการประกอบอาชีพของเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะกำกับดูแลการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยคู่สัญญาที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตอย่างโปร่งใส ถูกต้องครบถ้วนตามข้อเท็จจริง