คุณอรอนงค์ ชุณหะมาน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และบริหารกลาง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า แนวทางฟื้นฟูกิจการ ขณะนี้มี 5 ช่องทาง คาดว่าการฟื้นฟูกิจการจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 ดังนี้ 1.ปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะเจรจาหนี้ทุกประเภทให้ภาระการชำระหนี้และระยะเวลาการชำระหนี้สอดคล้องกับกระแสเงินสด รวมถึงเตรียมจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้นและปรับโครงสร้างเงินทุนระยะยาว ซึ่งจะมาจากการกู้สถาบันการเงิน, การแปลงหนี้สินเป็นทุน และ การเพิ่มทุน เป็นต้น ,2.ปรับปรุงเส้นทางการบินและฝูงบิน โดยจะยกเลิกเส้นทางที่ไม่สร้างกำไรหรือไม่สามารถปรับปรุงให้สามารถสร้างกำไรได้ในอนาคต พร้อมทั้งจะมีการปรับเปลี่ยนบริหารจัดการเส้นทางการบินให้เหมาะสมมากขึ้น รวมถึงจะมีการปรับลดประเภทเครื่องบินในฝูงบินเพื่อลดต้นทุน 3.ปรับปรุงหน่วยธุรกิจ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร เช่น จัดตั้งบริษัทย่อย ขณะเดียวกันจะจัดหาพันธมิตรมาร่วมทุน รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร ,4.ปรับปรุงกลยุทธ์ด้านพาณิชย์และการหารายได้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการหารายสได้ เช่น ขยายช่องทางการจำน่ายบัตรโดยสารให้หลากหลายมากขึ้น, นำเทคโนโลยีมาช่วยในการกำหนดราคา และจะมีการปรับปรุงโครงสร้างค่าตอบแทนของตัวแทนจำหน่ายให้เหมาะสมและรัดกุมยิ่งขึ้น และ5.ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยจะลดงานที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น, เพิ่มศักยภาพการทำงานแต่ละหน่วยธุรกิจให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน, ปรับลดจำนวนพนักงานและผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความสามารถในการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำลังการผลิต อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงาน และสวัสดิการของพนักงานเปลี่ยนไปเข้าระบบประกันสังคมตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ได้แต่งตั้งผู้มีประสบการณ์จัดทำแผนฟื้นฟูฯ ประกอบด้วย บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด, พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษศริน, นายจักกฤศฏิ์ พาราพันธกุล, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร โดยกำหนดกรอบเวลาจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ เม.ย.64 เพื่อส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำเข้าประชุมกับเจ้าหนี้ในการพิจารณาแผน หลังจากนั้นศาลฟื้นฟูกิจการจะมีการพิจาณาเพื่อเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูฯ และมีคำสั่งให้เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ภายใน มิ.ย.64 โดยการดำเนินการตามแผนต้องแล้วเสร็จภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฯ อย่างไรก็ตามสามารถขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี