ชี้ผลกระทบโควิดทำ 4 เดือนแรกคนลดลงเกือบครึ่ง คาดเดือนหน้าเป็นต้นไป อาจมีคนไข้หน้าใหม่เพิ่มขึ้นจากเครียดหนัก เร่งปรับการดูแลผู้ป่วยตามวิถีใหม่ นิวนอร์มอล พัฒนารูปแบบให้บริการผ่านแอพฯ วิดีโอคอลล์ รับยาผ่าน Drive thru นพ.จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการสำรวจจำนวนผู้เข้ารับบริการด้านจิตเวชทั้งในระบบผู้ป่วยใน-นอกของสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต 20 แห่ง พบว่าผู้ป่วยที่มารับบริการแบบผู้ป่วยนอกของสถาบันและโรงพยาบาลจิตเวชในช่วงเม.ย. 61,235 ราย ซึ่งลดลงจากเดือนม.ค. 88,923 ราย หรือคิดเป็น 31% และจำนวนผู้ป่วยในของสถาบันและโรงพยาบาลจิตเวชช่วงเดือนเม.ย. 10,319 ราย ลดลงจากเดือนม.ค.19,685 ราย หรือคิดเป็น 47.6% ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตคาดการณ์ว่าหลังจากในเดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป อาจจะมีจำนวนคนใช้บริการรายใหม่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมได้จากหลายปัจจัย จากความเครียดทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเดิม จำนวนผู้ป่วยใช้บริการมากขึ้นจนอาจทำให้กระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของผู้รับบริการ และจำนวนผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลอาจมากขึ้น จากการรักษาไม่ต่อเนื่องและขาดยา ด้านนพ.บุรินทร์ สุรอรุณสัมฤทธิ์ ผอ.กองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กล่าวว่า จากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กรมสุขภาพจิตจึงได้พัฒนาระบบเพื่อรองรับบริการสุขภาพจิตและจิตเวชสำหรับโรงพยาบาลในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่นี้ โดยพัฒนาระบบต่างๆ บนพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้านบริการสุขภาพจิตอย่างสูงสุด เช่น การจัดระบบจองคิว นัดหมายออนไลน์ คลินิกสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ การนัดหมายคนไข้ในลักษณะที่มีการเหลื่อมเวลา การรับบริการส่งยาทางไปรษณีย์หรือร้านขายยา รวมไปถึงการรับยาผ่านระบบ Drive thru เพื่อรักษาระยะห่างอีกด้วย นอกจากนั้น จะเพิ่มเติมระบบติดตามดูแลต่อเนื่องด้านสุขภาพจิตและจิตเวชรูปแบบใหม่เพิ่มเติมอีก ได้แก่ การจัดทำระบบนัดติดตาม/Application การติดตามโดยตรงทางโทรศัพท์/VDO call (โปรแกรมโทรถามตามเยี่ยม) ระบบการรายงานตัวเอง (Self-report) ผ่าน Application/VDO call การเยี่ยมบ้านในรายกรณีที่จำเป็น/มีปัญหาซับซ้อนหรือเยี่ยมบ้านผ่านระบบ VDO call (VDO call visiting) การติดตามผ่านโรงพยาบาลเครือข่ายโดยระบบ Teleconference ให้ความรู้ในการป้องกัน ดูแลตนเอง สำหรับผู้ป่วยและญาติ (บูรณาการไปกับกิจกรรมบริการต่างๆ) การประเมินสุขภาพจิต Application โดยหากพบมีอาการผิดปกติหรือเกิดปัญหา สามารถติดต่อขอคำปรึกษากับโรงพยาบาลใกล้บ้าน และหากเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลใกล้บ้าน ให้ขอคำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ VDO Call Teleconference รวมถึงการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจิตเวช ต่อไป อย่างไรก็ตาม จะเดินหน้าพัฒนากลไกในการบริการด้านการเยียวยาจิตใจเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้คลายความวิตกกังวล เครียด กลัว เศร้า เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับความช่วยเหลือด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด ช่วยให้สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจได้ดี และลดผลกระทบด้านสุขภาพจิตในระยะยาว ขณะเดียวกันหากรู้สึกหมดพลัง เครียดมากขึ้น สามารถใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดิม