ธ.ก.ส.หนุนเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดำเนินธุรกิจรับซื้อรวบรวมผลไม้ได้แก่ เงาะ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และลองกอง ดูดซับปริมาณและกระจายผลผลิตผลไม้ในช่วงฤดูกาลไปยังตลาดในจุดต่างๆ พร้อมเตรียมวงเงินสินเชื่อกว่า 1,000 ล้านบาท รองรับโดยมีกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ชดเชยดอกเบี้ยให้อีกร้อยละ 3 ต่อปีในช่วง 6 เดือนแรก ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.63 ทุกสาขา นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้จัดโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลไม้ ปี 2563 เพื่อสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนและสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจรับซื้อรวบรวมผลไม้ของเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร เป็นการช่วยดูดซับปริมาณผลไม้ในช่วงฤดูกาลไม่ให้ราคาตกต่ำและเพิ่มทางเลือกในการกระจายผลไม้ไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆ อีกทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ปี 2563 กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยเน้นผลไม้หลัก 7 ชนิดได้แก่ เงาะ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และลองกอง วงเงินสินเชื่อรวม 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.63 สำหรับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อต้องเป็นเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีประสบการณ์ในการรวบรวมผลไม้ กำหนดวงเงินกู้กรณีเป็นเกษตรกรสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) กรณีกลุ่มเกษตรกรสูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท กรณีสหกรณ์การเกษตรสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และกรณีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสูงสุดไม่เกิน 20 เท่าของเงินทุนตนเองและไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR(ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 4.875 ต่อปี) โครงการดังกล่าวกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3.00 ต่อปีในช่วง 6 เดือนแรกนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ โดยกำหนดชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ และไม่เกินวันที่ 28 ก.พ.64 ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา หรือที่ Call Center 02 -555-0555