เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับปรับตัวของวุฒิสภาด้วยผลงานเพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยมีเนื้อหาดังนี้ "ถ้าบ้านเมืองปกติมาตั้งแต่ต้น ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารจนกระทั่งนำมาสู่การเลือกตั้งในปัจจุบัน ต้องยอมรับเลยว่าระบบการเมืองที่เรากำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าที่มาของ ส.ส. ส.ว. การใช้อำนาจรัฐ ตลอดจนกลไกในรัฐสภา มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ มันผิดฝาผิดตัวในระบอบประชาธิปไตยแน่นอนเพราะประชาธิปไตยที่แท้จริงมันไม่ควรจะมีรูปแบบอย่างที่เป็นอยู่ แต่นี่มันเป็นระยะเปลี่ยนผ่านถ่ายอำนาจจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย อย่างที่ว่าต้องค่อยเป็นค่อยไปแล้วมีเป้าหมายในที่สุดว่าต้องเป็นประชาธิปไตยจ๋าเต็มใบ ในระยะนี้มันเป็นการผสมผสานกันและช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองเดินไปสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง ใครต่อใครที่อยู่ในสภาไม่ว่าจะเป็นส.ส. ส.ว. หรือพรรคการเมืองต่างๆ ก็มาจากผลพวงของกลไกในระยะเปลี่ยนผ่านทั้งสิ้น จะผิดหรือถูกก็แล้วแต่ว่าจะมองมุมไหน ถ้าตัวเองได้ประโยชน์ก็เงียบสนิทไม่โจมตี ถ้าตัวเองเสียประโยชน์ไม่ได้ดั่งใจก็กล่าวหาโจมตีในจุดๆ นั้น ต้องยอมรับว่าหลายคนที่ชูหน้าชูตาอยู่ในสภาก็ได้อานิสงส์จากกลไกในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ ส.ว. ก็เช่นกันถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตยปกติก็ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้ ควรจะมาจากการเลือกตั้งหรือควรจะมาจากการเลือกกันในสาขาอาชีพหรือวิธีการอื่นใดก็ว่ากันไป ทั้งอำนาจ หน้าที่ตามปกติจะเป็นเช่นไรก็ควรเป็นไปเช่นนั้น ไม่ควรมีอำนาจพิเศษใดๆ แต่ที่มันเป็นเช่นนี้ก็เพราะเป็นการผสมผสาน เป็นการเปลี่ยนผ่าน เป็นการประคับประคอง ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อเป้าหมายไปสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง โดยเฉพาะ ส.ว.ชุดนี้ เขาให้อำนาจพิเศษมาอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่เหมือน ส.ว.ในยุคอื่นๆก็คือมาทำการปฏิรูปประเทศตามแผนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้สัมฤทธิ์ผลไม่เกิน 5 ปีนี้ ต้องติดตาม เสนอแนะ เร่งรัด ปฏิรูปประเทศกับรัฐบาลให้เป็นมรรคเป็นผล จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ จะเสียผู้เสียคนหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลและส.ว. รัฐบาลเป็นคนทำ ส.ว.เป็นคนติดตาม เสนอแนะ เร่งรัด เขาให้ 2 องค์กรนี้มาช่วยกันทำช่วยกันดู ไม่ใช่มาให้ช่วยกันลวงโลกแหกตาชาวบ้าน นี่ก็ผ่านมาแล้ว 1 ปี โควิดก็มาเปลี่ยนแปลงใหญ่ จะปฏิรูปทั้ง100เรื่อง1,000ภารกิจที่กำหนดในแผนก็คงไม่ได้ เวลาก็เหลือแค่ 3 ปี ในฐานะที่ผมเป็นส.ว. เห็นว่าเอาเรื่องใหญ่ๆที่ปฏิรูปประเทศสัก 3 เรื่องแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินให้สำเร็จประชาชนก็คงไชโยโห่ฮิ้วกันได้ก็คือ 1. การปฏิรูปการเมือง การเข้ามาเป็นส.ส.และส.ว. ทั้งการดำรงอยู่ ต้องสุจริตเที่ยงธรรม ตรงไหนอย่างไรที่มันบกพร่องผิดพลาดต้องแก้ไขซะ ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมาก็ต้องทำให้ได้ดี ไม่ใช่อย่างที่เห็นและเป็นอยู่ ทั้งแย่งอำนาจ แย่งตำแหน่ง แย่งเงิน ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย เรื่องนี้ต้องทำให้ได้ สำคัญมากๆ 2. ต้องปฏิรูปเรื่องการคอร์รัปชั่น ต้องกระชับ กำกับ เข้มงวดกวดขัน เร็วและแรงให้ได้สักส่วนหนึ่งของประเทศจีนก็ยังดี 3. ต้องปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สนองต่อประชาชน ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน รีบๆทำกันหน่อยในเรื่องนี้ให้มันเป็นระบบเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ทำแยกส่วนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ปฏิรูปประเทศ 3 เรื่องใหญ่ๆนี้ถ้าทำได้จริง เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครเขาด่าหรอก แต่ที่เขาด่าและกล่าวหาอยู่ทุกวันนี้ ประชาชนเขายังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เขาเห็นแต่การแย่งอำนาจกัน ยังไม่เห็นการปฏิรูปประเทศที่ประชาชนจะได้อย่างจริงจังเป็นรูปธรรม ไปๆมาๆส.ว.จึงโดนหางเลขไปด้วยว่าไม่มีอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าจะไม่ให้ส.ว.โดนด่าต้องแก้จุดนี้เป็นสำคัญ"