สุดคึกคักแห่ล่องแพหนองหวาย ชมธรรมชาติ เล่นน้ำ ผ่อนคลายโควิด ทำเงินสะพัด กระตุ้นท่องเที่ยว เข้มคัดกรอง จำกัดคนลงแพ งดขายน้ำเมา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังมีการคลายล็อกระยะที่ 3 ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวอันซีนทางธรรมขาติหนองหวาย พื้นที่ ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม กลับมาคึกคักอีกครั้ง ในชาวงวันหยุด ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างเดินทางมาท่องเที่ยว พักผ่อน ล่องแพชมธรรมชาติ ชิมเมนูอีสาน และเล่นน้ำคลายร้อน ผ่อนคลายสู้โควิด ทำให้ชาวบ้าน ในพื้นที่ กลับมามีรายได้อีกครั้ง หลังจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด ต้องปิดบริการท่องเที่ยว มานานร่วมครึ่งปี โดยทางชาวบ้านกลุ่มผู้ล่องแพ ยังคงมีมาตรการเข้ม ในการเข้มงวดดูแล ตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิดระบาด ทั้งการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ รวมถึง การจำกัดจำนวนคนลงแพไม่เกิน 10 คน นอกจากนี้ยังมีการงดจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงการวางมาตรการป้องกันอันตราย จัดเตรียมเสื้อชูชีพให้ ประชาชนนักท่องเที่ยว ทุกราย กำชับให้สวมชูชีพก่อนลงเล่นน้ำ และมีเรือลาดตระเวนดูแลตลอดทั้งวัน ด้าน นายเหรียญ ชิตภักดิ์ อายุ 60 ปี ประธานกลุ่มล่องแพหนองหวาย กล่าวว่า สำหรับหนองหวาย เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ เดิม ที่ ชาวบ้าน ใช้ทำการเกษตร มีเนื้อที่ กว่า 100 ไร่ เชื่อมกับสายน้ำก่ำ ก่อนไหลลงน้ำโขง จากนั้น ได้ รับการพัฒนาขุดลอก เพื่อให้มีน้ำเก็บกักตลอดปี มาต่อเนื่อง จากนั้น ชาวบ้าน จึงได้ หารือกัน วางแนวทางในการพัฒนา เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ นวัตวิถี จึงมีการจัดตั้งกลุ่มล่องแพขึ้น เพื่อบริการประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ มาเที่ยวพักผ่อนล่องแพ ชมธรรมชาติ ชิมเมนูอาหารอีสาน และเล่นน้ำคลายร้อน เพื่อให้ชาวบ้านมีงานมีรายได้ ตลอดปี ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนา เปิดแพบริการ มากถึง 10 หลัง แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ตั้งปิดบริการชั่วคราวไปหลายเดือน แต่พอมีการผ่อนคลายระยะที่ 3 ทำให้สามารถเปิดบริการได้อีกครั้ง และมีประชาชน นักท่องเที่ยว กลับมาเที่ยวล่องแพคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด แต่ทางกลุ่มล่องแพ ยังคงวามาตรการเข้มงวดในการคัดกรอง วัดอุณหภูมิ ก่อนใช้บริการ อีกทั้งยังมีการจำกัดคนลงแพไม่เกิน 10 คน และห้ามจำหน่าย หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายเหรียญ ชิตภักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญในการบริการล่องแพ จะมีการเข้มงวดการจัดเสื้อชูชีพ กำชับให้ประชาชน นักท่องเที่ยว สวมชูชีพก่อนเล่นน้ำ และจุดเรือลาดตระเวนดูแลต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่วนราคาค่าบริการ ชั่วโมงแรก 250 บาท หลังจากนั้น ชั่วโมงละ 100 บาท หากเหมาจ่ายวันละ 1,050 บาท ซึ่งทำให้ชาวบ้าน มีรายได้เสริม จากการทำไร่ทำนา ซึ่งในการจัดสรรรายได้ จะแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 -4 คน ทุกเดือนจะมีการสรุปรายได้ หักค่าใช้จ่าย กองกลาง เก็บ กลุ่มละ 250 บาท ต่อแพ 1 ลำ เพื่อนำมาเข้ากองทุนพัฒนาหมู่บ้าน เหลือจากต้นทุนจะแบ่งผลกำไรในกลุ่ม ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ เดือนละประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ต่อคน อย่างไรก็ตามหลังมีการเปิดบริการอีกครั้ง ขอให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ปฏิบัติตามกฎระเบียบเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด ให้สามารถเปิดบริการได้ต่อเนื่อง นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวสู้โควิด ให้ มีแหล่งเที่ยวพักผ่อน ช่วงวันหยุดอีกด้วย