วันที่ 6 มิ.ย.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐว่า หากจะถามว่าจบหรือไม่จบ พูดไปก็เหมือนโกหก แต่หากถามว่ามีอะไรรุนแรงหรือไม่ ต้องตอบว่าไม่มี เพราะพรรคการเมืองจะหยุดทำงานไม่ได้ และจะหยุดเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองคือกลุ่มของผู้คนที่เข้ามาทำงานทางการเมืองเพื่อให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์สูงสุด แต่หากถามผู้คนภายในพรรคทะเลาะกันหรือไม่ก็ต้องตอบว่าไม่มี เพียงแต่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่ออกไปแล้วมีสื่อใหญ่บางแขนงนำไปขยายความ ยืนยันเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐไม่รุนแรงถึงขั้นพรรคแตกแน่นอน นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าการที่กรรมการบริหารพรรรคลาออก 18 คน ไม่ใช่เพราะคนในพรรคไม่เอากรรมการบริหารพรรคชุดนี้ เพียงแต่ว่า กรรมการบริหารพรรคชุดนี้เปิดทางให้สมาชิกเลือกผู้บริหารใหม่ถือเป็นความใจกว้าง ซึ่งอาจจะเลือกคนเดิมได้ เพราะคนเดิมก็กลับเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคได้ ถ้าพอใจในกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม เป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตย แต่บางทีความรักของคนบางกลุ่มที่มีต่อกรรมการบริหารพรรคชุดต่างๆ ก็อาจจะเอามาพูดให้ดูรุนแรง แต่จริงๆคนในพรรคไม่มีรุนแรงและไม่ได้คิดจะเอาอะไรเลย แต่ต้องการให้พรรคเป็นที่ครองใจของประชาชน ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้นก็ไปถาม พล.อ.ประวิตร ทุกวัน ท่านก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ท่านตรงไปตรงมา คนในพรรคให้ความเคารพและให้ความเชื่อถือ แต่ พล.อ.ประวิตร จะรับหรือไม่รับก็อย่างที่เห็นอยู่ นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยัง กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่เคยคิดอยากเปลี่ยนกระทรวง เป็นนักการเมืองรู้ว่าวันนี้ควรจะทำอะไร จะทำอะไรให้ประชาชนส่วนใหญ่เป็นสุขได้ประโยชน์จากการทำงานของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอสมาชิกพรรคจะต้องระมัดระวังเรื่องการสื่อออกไป เพราะเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่ทุกอย่างออกมาดี นายกรัฐมนตรีก็ชนะเกือบ 100 เปอร์เซนต์ ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจ ส.ส.และชาวบ้าน หมวดต่อไป คือ ชาวบ้านในชนบทจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล ปรับ ครม. อย่าไปถาม แต่ขอพูดในแนวของการเมืองว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องทำให้ดี หาคนให้ดี แต่อำนาจเป็นของนายกรัฐมนตรี