นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 13.30 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมหน่วยงานด้านเศรษฐกิจคณะใหญ่ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อมาร่วมประเมินผลมาตรการและประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ เพราะแม้มาตรการดูแลเรื่องโควิด-19 ของรัฐบาลจะทำได้ดี แต่สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจยังมีความท้าทายอยู่ โดยหน่วยงานด้านเศรษฐกิจจะมารายงานสถานการณ์ในแต่ละเรื่อง ทั้งเรื่องการจัดเก็บทั้งหลายทั้งปวง เพื่อหารือกัน ส่วนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่หรือไม่นั้น กำลังพิจารณาอยู่ การจะมีมาตรการใหม่ได้ ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อน ขณะเดียวกันต้องดูเรื่องภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยเสี่ยง อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวก็ยังได้รับผลกระทบ โดยสุดท้ายทั้งหมดจะไปอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วแค่ไหนเช่น ถ้ามีวัคซีนออกมาการแพร่ระบาดก็จบ แต่ถ้ายังไม่มีก็ต้องมีมาตรการออกมาดูแล ประเทศไทยรอไม่ได้ ต้องมีการเร่งฟื้นฟู ทั้งนี้งบประมาณที่มีอยู่เพียงพอสำหรับดูแลสถานการณ์โควิด-19 โดยมาจาก พ.ร.บ.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการเยียวยาจะใช้วงเงิน 6 แสนล้านบาท ขณะที่การฟื้นฟูจะใช้วงเงิน 4 แสนล้านบาท โดยในส่วนนี้ไม่ได้เป็นการเร่งใช้เงินจนเกินเหตุ ดังนั้นการประชุมในวันที่ 8 มิ.ย.63 จะเป็นการติดตามสถานการณ์ เพื่อวางแผนการใช้เงินให้มีประสิทธิภาพ ต้องมีการดูแลเรื่องแผนการใช้จ่ายให้เกิดผลอย่างแท้จริง และให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด