เกษตรฯ จับมือ แม็คโคร MOU ความร่วมมือพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ ยึดหลัก “ตลาดนำการเกษตร” ประเดิมรับซื้อเผือกหอม สระบุรี 5,000 กก. กู้วิกฤตโควิด-19 กระทบชาวไร่ พร้อมวางแผนร่วมกันระยะยาวพัฒนาสินค้าเกษตรคุณภาพ ตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร สู่ตลาดนำการเกษตร ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ ให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด เพื่อให้เกษตรกรผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด โดยให้เกษตรกรมีทางเลือกในช่องทางจำหน่ายผลผลิตผ่านสาขาของแม็คโคร ที่มีมากกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการพัฒนาการเกษตรโดยส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มในการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีแปลงใหญ่ จำนวน 6,877 แปลง เกษตรกรเข้าร่วมกว่า 407,493 ครัวเรือน พื้นที่ 6,585,336 ไร่ สินค้าเกษตรประมาณ 90 รายการ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการกลุ่มและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด มีการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตกับตลาดตามนโยบาย “การตลาดนำการเกษตร” ซึ่งจากการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนความร่วมมือในการเชื่อมโยงการทำงานด้านการผลิตและการตลาดกับภาคเอกชนต่างๆ และได้วางแผนการดำเนินการร่วมกัน ทั้งแผนระยะเร่งด่วน (Quick win) รวมถึงแผนความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง “กระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้ความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพสินค้า ที่จะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ซึ่งการดำเนินการร่วมกับแม็คโครในครั้งนี้จะมีการขยายไปพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศไทย และทางแม็คโครจะเข้ามาช่วยในเรื่องของการกำหนดตลาดว่าเกษตรกรควรปลูกพืชอะไร ในช่วงเวลาไหน ทำให้พี่น้องเกษตรกรได้ราคาที่มีความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ลดต้นทุนการผลิต และมีตลาดรองรับชัดเจน ซึ่งในอนาคตได้ตั้งเป้าหมายว่าจะให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก กระทรวงเกษตรฯ จึงพร้อมที่จะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับพี่น้องเกษตรกรเพื่อสร้างความพร้อมที่จะก้าวสู่ยุคปฏิรูปภาคการเกษตรต่อไป” นายเฉลิมชัย กล่าว นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันแม็คโครได้ทดลองซื้อผลผลิตเผือกหอมจากกลุ่มเกษตรกรของแปลงใหญ่เผือก ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ส่งเข้าศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าในปริมาณ 5,000 กิโลกรัม โดยเริ่มส่งผลผลิตตั้งแต่ 28 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา และจะมีแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นจึงขยายผลต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ซึ่งได้ร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตให้เน้นการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐานตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน “บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เป็นตลาดค้าส่งสมัยใหม่ มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม ทำให้มีความต้องการผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยแม็คโครจะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรทั่วไป แต่เนื่องจากปริมาณความต้องการในการรับซื้อได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด จึงทำให้แม็คโครต้องการรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ที่มีศักยภาพ สามารถผลิตสินค้าได้มาตรฐาน และปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการและมีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า”นายเข้มแข็ง กล่าว ด้านนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับภาคการเกษตรอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเกษตรกรที่มีความเปราะบางในด้านการระบายผลผลิต ที่กว่าครึ่ง กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว มีผลผลิตพร้อมขาย แต่ด้วยระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ชะงักงันในช่วงภาวะโควิด-19 ผลผลิตระบายไม่ทัน แม็คโคร จึงร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการใช้กลยุทธ์ ตลาดนำการเกษตร สนับสนุนการกระจายสินค้าผ่านสาขาของแม็คโคร สู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร พร้อมยกระดับคุณภาพให้ผลผลิตมีความสม่ำเสมอและขายได้ราคา สิ่งที่แม็คโครสามารถช่วยได้มากคือ การเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งมีการซื้ออย่างสม่ำเสมอในปริมาณมาเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ สร้างโอกาสในการขายผลผลิตให้เกษตรกรได้มากกว่า โดยเผือกหอม จากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นสินค้าจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มแรกที่แม็คโครรับซื้อผ่านความร่วมมือดังกล่าว (ล็อตแรกจำนวน 5,000 กิโลกรัม) สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที แม็คโคร และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้วางกรอบความร่วมมือในระยะยาว ให้เกิดความต่อเนื่อง ในการพัฒนาและส่งเสริมการตลาดอย่างยั่งยืนให้กับสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย ในลำดับต่อไป ซึ่งในแต่ละปีแม็คโครรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ มีการรับซื้อในปี 2562 เป็นปริมาณมากกว่า 170,000 ตัน คาดว่าในปี 2563 จะรับซื้อผักผลไม้ได้ในปริมาณมากกว่า 200,000 ตัน จำนวนนี้รับซื้อจากเกษตรกรรายย่อย กลุ่มสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน จำนวน 16 กลุ่มทั่วประเทศ และมีสมาชิกเกษตรกรมากกว่า 7,700 ครัวเรือน “หน้าที่ของแม็คโครคือการสรรหาวัตถุดิบคุณภาพมาตรฐานปลอดภัยเพื่อส่งต่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเมื่อเกิดการเชื่อมโยงในครั้งนี้ ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะในช่วงภาวะที่เกษตรกรประสบความยากลำบาก เราสามารถดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที และยังพัฒนาต่อยอดได้อีกในระยะยาว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงในชีวิตและรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน”นางศิริพร กล่าว ขณะที่นางสุวิมล สุภธรรม อายุ 49 ปี เจ้าของไร่เผือกหอม หนึ่งในสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่เผือก ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี กล่าวว่า เผือกหอมที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ ผลผลิตของเราส่งออกไปขายหลายแห่ง ทั้งในโรงงานผลิตขนมรายใหญ่ และส่งออกไปขายยังตลาดจีน แต่ในช่วงโควิด-19 เราได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องหาตลาดเพื่อระบาย พอได้แม็คโครเข้ามา ก็ทำให้มีความหวัง แถมยังได้เรียนรู้การทำตลาด การพัฒนามาตรฐานต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย