ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นนักศึกษาชายไทยกลับจากซาอุดิอาระเบีย ผ่านด่านปาดังเบซาร์ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมผู้ป่วยสะสมรวม 3,084 ราย ย้ำร่วมกันใช้ชีวิตวิถีใหม่ ด้าน"แซมบา"อ่วม! เหยื่อป่วยโควิดฯทุบสถิติรอบวันใน 24 ชั่วโมงพบผู้ติดเชื้อกว่า 2.8 หมื่นราย ยอดป่วยรวมกว่า 5.58 หมื่นราย ด้านสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสมรณะยังลุกลามไม่หยุด "ยอดตาย-ป่วย" พุ่งต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.63 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า วันนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้ป่วยสะสม 3,084 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้รวม 2,968 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย และยังรักษาใน รพ. 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 26 ปี กลับจากซาอุดิอาระเบียถึงกัวลาลัมเปอร์ และเข้าไทยผ่านด่านปาดังเบซาร์ โดยรถบัสเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา แปลว่าไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศในวันนี้ พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยสะสมทั้งหมด ยังคงเป็นการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้ามากที่สุด ส่วนผู้ป่วยที่เข้ามาอยู่ในสถานกักกัน อยู่อันดับที่ 6 แต่หากเป็นช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นผู้ป่วยที่พบในสถานกักกันของรัฐมากที่สุด ตามด้วยการไปสถานที่ชุมชน จึงแสดงว่ายังมีการติดเชื้อในชุมชน จึงขอให้ใส่หน้ากาก อนามัย หน้ากากผ้าตลอดที่ออกมาข้างนอก "เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 โดยมีกิจการหลายประเภท กลับมาเปิดได้ตามปกติ พี่น้องประชาชน สามารถใช้ชีวิตตามปกติมากยิ่งขึ้น ที่บอกตลอด คือ ความปกตินั้นไม่ใช่ความปกติเดิม แต่เป็นความปกติใหม่ หรือชีวิตวิถีใหม่ หลายคนอาจรู้สึกว่าขัดใจ ไม่คุ้นชิน ไม่สะดวกสบายบ้าง มาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อไม่ให้เกิดการะระบาดของเชื้อซ้ำใหม่ ทั้งผู้ประกอบกิจการ ผู้รับบริการ เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ มีการสแกนอุณหภูมิเข้าร่างกายก่อนเข้า การสแกนคิวอาร์โคดผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อซ้ำอีก หากระบาดจริงๆ ก็ป้องกันและจำกัดวงให้แคบที่สุด และสามารถติดตามผู้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิด นำมาตรวจคัดกรองและรักษาได้ทัน" ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศบราซิล ว่า พบตัวเลขผู้ป่วยที่ติดเชื้อทะยานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กว่า 28,936 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 558,237 คน ขณะเดียวกัน มีการยืนยัน ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,262 คนจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 31,309 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เพิ่มแรงกดดันอย่างหนักต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ที่กำลังเผชิญกับเสียงวิจารณ์ ในเชิงลบอย่างรุนแรง ถึงความล้มเหลว ในการบริหารจัดการวิกฤติด้านสาธารณสุข ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการรับมือต่าง ๆ การใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน มารักษาผู้ป่วยซึ่งแพทย์หลายคนเตือน ว่ามีความเสี่ยงและอันตรายถึงชีวิต รวมไปถึงการแสดงความเห็นว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้น 6,452,391 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิต 382,479 ราย และผู้ป่วย ที่ได้รับการรักษาจนหาย 3,066,698 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,881,205 รายและมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 108,059 ราย